
วันนี้วันที่ 9 พฤษภาคม เป็นวันแห่งชัยชนะ (Victory Day หรือ День Победы) ครบรอบ 75 ปี ชัยชนะของสหภาพโซเวียตเหนือนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง เดิมรัสเซียตั้งใจจะเฉลิมฉลองวันนี้อย่างยิ่งใหญ่ แต่เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้ต้องเลื่อนการสวนสนามของกองทัพรัสเซียที่จัตุรัสแดง กรุงมอสโก รวมถึงการเดินขบวนกองทหารอมตะ Immortal Regiment ออกไป เหลือเพียงการสวนสนามทางอากาศเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้รัสเซียและประเทศอดีตโซเวียตอื่นๆจะฉลองวันแห่งชัยชนะในวันที่ 9 พฤษภาคม แต่อดีตประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรอื่นๆเช่นสหรัฐฯและอังกฤษ กลับฉลองครบรอบ 75 ปี วันแห่งชัยชนะในยุโรป (Victory in Europe Day หรือ VE Day) ไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
เหตุใดตะวันตกและโซเวียตจึงฉลองชัยชนะคนละวันกัน ?
คำตอบแบบสั้นๆคือ “การเมือง” ครับ
อธิบายแบบยาวหน่อยคือในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ตะวันตกกับโซเวียตจะยังร่วมมือกันรบกับเยอรมันอยู่ แต่ขณะนั้นสงครามเย็นก็เริ่มตั้งเค้าแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างมีผลประโยชน์แอบแฝงไม่ไว้ใจกัน โซเวียตรีบยึดพื้นที่ในยุโรปตะวันออกให้ได้มากที่สุด เพื่อตั้งรัฐบาลคอมมิวนิสต์ที่เป็นมิตรกับโซเวียตขึ้นมาใช้เป็นพื้นที่กันชนป้องกันการรุกรานในอนาคต ขณะที่ตะวันตกก็เร่งยึดพื้นที่ในยุโรปตะวันตกเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นคอมมิวนิสต์ ฯลฯ อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นปัญหากันคือประเทศไหนมีบทบาทในการเอาชนะเยอรมันมากกว่ากัน ประเทศไหนควรมีบทบาทมากที่สุดในการยอมรับการยอมแพ้ของเยอรมัน
วันที่ 30 เมษายน ปี 1945 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายในบังเกอร์ที่กรุงเบอร์ลิน ต่อมาวันที่ 7 พฤษภาคม เยอรมันประกาศยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข ในมุมมองของเยอรมันต้องการยอมแพ้ต่อตะวันตกมากกว่า หน่วยทหารต่างๆของเยอรมันก็อยากตกเป็นเชลยของตะวันตกมากกว่าโซเวียต เมื่อตะวันตกยอมรับการยอมแพ้ของเยอรมันแล้ว จึงมีการเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการ โดยนายพลดไวต์ ดี ไอเซนฮาวร์ เป็นตัวแทนของตะวันตก เริ่มมีผลวันรุ่งขึ้น วันที่ 8 พฤษภาคมจึงกลายเป็นวันแห่งชัยชนะในยุโรป
โจเซฟ สตาลิน ผู้นำโซเวียตไม่พอใจมาก เรียกร้องให้มีการเซ็นสัญญาอีกครั้งหนึ่งที่กองบัญชาการของโซเวียต ในกรุงเบอร์ลิน โดยจอมพลกิออร์กี ชูคอฟ เป็นตัวแทนของโซเวียต ส่วนจอมพลวิลเฮล์ม ไคเตลเป็นตัวแทนฝั่งเยอรมัน เซ็นสัญญากันในคืนวันที่ 8 พฤษภาคม ซึ่งเวลาในกรุงมอสโกตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม ด้วยเหตุนี้โซเวียต (รัสเซีย) จึงฉลองวันแห่งชัยชนะเหนือเยอรมันในวันที่ 9 พฤษภาคม
สวัสดี
09.05.2020