รัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย ราจนาธ ซิงห์ (Rajnath Singh) พร้อมคณะนายทหารระดับสูง พึ่งเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อร่วมงานสวนสนามวันแห่งชัยชนะที่จัตุรัสแดง กรุงมอสโกที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ระหว่างการเยือนครั้งนี้ทางอินเดียก็จะเจรจาขอให้รัสเซียเร่งกำหนดส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ให้อินเดียเร็วขึ้น นอกจากนี้อินเดียยังต้องการให้รัสเซียเร่งส่งอะไหล่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่อินเดียจัดหาจากรัสเซีย เช่นเครื่องบินขับไล่ Su-30MKI, เครื่องบินขับไล่ MiG-29, รถถังหลัก T-90S, เรือดำน้ำชั้น Kilo ฯลฯ ให้อินเดียทางอากาศด้วย (ปกติมักลำเลียงมาทางเรือ เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่า แต่ใช้เวลานาน)
อินเดียเซ็นสัญญาจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากรัสเซียจำนวน 5 ระบบ มูลค่า 5,430 ล้านเหรียญ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018 เดิมมีกำหนดส่งมอบระหว่างเดือนตุลาคม ปี 2020 ถึงเดือนเมษายน ปี 2023 แต่เนื่องจากอินเดียต้องเล่นแร่แปรธาตุหลบกฎหมาย Countering America’s Adversaries Through Sanctions Act หรือ CAATSA ของสหรัฐฯ ที่ห้ามไม่ให้ประเทศต่างๆซื้ออาวุธจากรัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ไม่อย่างนั้นจะถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร ประกอบกับการระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้กำหนดเริ่มส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของอินเดียถูกเลื่อนไปเป็นเดือนธันวาคม ปี 2021 อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งกับจีนกำลังตึงเครียด อินเดียอาจมีความจำเป็นต้องใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ส่งผลให้อินเดียต้องการให้รัสเซียเร่งกำหนดส่งมอบให้เร็วขึ้น
https://tass.com/society/1170537

ความขัดแย้งระหว่างจีนและอินเดียครั้งนี้สำหรับรัสเซียถือว่าส้มหล่นเลยครับ เนื่องจากรัสเซียมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสองประเทศ จึงได้รับบทคนกลาง เข้าไปมีอิทธิพลไกล่เกลี่ยโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้การที่อินเดียอาจมีความจำเป็นต้องใช้ยุทโธปกรณ์อย่างเร่งด่วน ส่งผลให้อินเดียจำเป็นต้องหันไปจัดหาอาวุธจากรัสเซียเพิ่มโดยอัตโนมัติ เพราะใช้งานมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นมีความคุ้นเคยอยู่แล้ว ต่างจากอาวุธค่าย NATO โดยเฉพาะของสหรัฐฯที่อินเดียพึ่งเริ่มจัดหาช่วงไม่กี่ปีมานี้
กรณีนี้น่าสนใจตรงที่ถ้าเกิดรัสเซียยอมส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ให้อินเดียก่อนกำหนด รัสเซียจะเอาของที่ไหนมาส่งมอบ เพราะกองทัพรัสเซียเองก็กำลังจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 เข้าประจำการเพิ่มเช่นกัน กำหนดการแน่นไปหมด หรือรัสเซียจะเล่นแร่แปรธาตุเอาระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากออเดอร์ของกองทัพรัสเซียส่งให้อินเดียก่อน ต้องติดตามต่อไป
กรณีนี้ยังเป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นความจำเป็นที่ต้องมีการจัดหายุทโธปกรณ์เตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะมีความจำเป็นต้องใช้เมื่อไหร่ และยุทโธปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนั้นต้องใช้เวลาผลิตนานหลายปี ที่สำคัญหลังรับมอบมาแล้วก็ใช่ว่าจะใช้ออกรบได้ทันที ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายเดือนหรือหลายปีในการฝึกกำลังพลให้มีความชำนาญ ถึงจะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเข้าใจว่าการซื้ออาวุธไม่ใช่การสั่งของออนไลน์ ที่สามารถจัดส่งแบบ EMS ถึงมือผู้ซื้อได้ในเวลา 2 – 3 วัน
สวัสดี
23.06.2020