
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมาสื่อ Anadolu Agency ของตุรกีรายงานอ้างแหล่งข่าวกลาโหมว่าอียิปต์ส่งทหารประมาณ 150 นาย ติดอาวุธเบา มาสนับสนุนรัฐบาลซีเรีย วางกำลังที่จังหวัดอเลปโปและอิดลิบ ประสานงานกับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ (IRGC) ของอิหร่าน สื่อตุรกีโจมตีอียิปต์ว่าร่วมมือกับผู้ก่อการร้ายที่อิหร่านสนับสนุนต่อต้านกลุ่มกบฏซีเรียสายกลาง (วาทกรรม moderate rebels มาอีกแล้วครับ) ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ต่อมาวันที่ 31 กรกฎาคม สื่อ Tasnim News Agency ของอิหร่านก็นำข่าวจากสื่อตุรกีไปรายงานต่อ แต่จงใจตัดตอนเนื้อหาที่สื่อตุรกีพูดถึงอิหร่านทิ้งไป
ทางด้านสื่อ Al-Masdar News ก็รายงานอ้างแหล่งข่าวในกองทัพซีเรีย ปฏิเสธข่าวที่อียิปต์ส่งทหารเข้าซีเรียว่าไม่เป็นความจริง
กรณีนี้น่าสนใจครับ เพราะถึงแม้ประเด็นเนื้อหาข่าวจะอยู่ที่ซีเรีย แต่เบื้องหลังมีความเกี่ยวพันถึงการเมืองระหว่างประเทศและการสู้รบในลิเบียด้วย ก่อนอื่นผมขอพูดถึงจุดยืนของซีเรียและอิหร่านต่อสงครามลิเบียก่อน ถ้ารู้ที่มาตรงนี้ ผู้อ่านจะถึงบางอ้อทันที
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน สื่อ Xinhua รายงานว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซีเรียประกาศให้การสนับสนุนอียิปต์ในลิเบีย ต่อมาก็มีข่าวในสื่อ SouthFront ว่าซีเรียใช้เครื่องบินลำเลียง Il-76 ส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ Pantsir-S1 ให้กองทัพแห่งชาติลิเบีย เป็นเหตุผลว่าทำไมช่วงหลังมานี้กองทัพแห่งชาติลิเบียจึงมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ Pantsir-S1 ติดตั้งบนรถบรรทุก KAMAZ-6560 เหมือนของรัสเซีย ไม่ได้มีแค่รุ่นที่ติดตั้งบนรถบรรทุก MAN SX 45 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ UAE สาเหตุที่ซีเรียสนับสนุนอียิปต์และกองทัพแห่งชาติลิเบียเพราะมีตุรกีเป็นศัตรูร่วมกันนั่นเอง นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ซีเรียจะกลับเข้าร่วมสันนิบาตอาหรับ ฟื้นสัมพันธ์กับกลุ่มเศรษฐีน้ำมัน เพื่อนำเงินมาฟื้นฟูประเทศ
ที่น่าสนใจคือขณะที่รัสเซียและซีเรียให้การสนับสนุนกองทัพแห่งชาติลิเบีย แต่อิหร่านกลับประกาศให้การสนับสนุนตุรกีและรัฐบาลปรองดองแห่งชาติลิเบียที่กรุงตริโปลี ตามที่สื่อ Al-Masdar News รายงานครับ ที่เป็นเช่นนี้เพราะอิหร่านเป็นศัตรูกับกลุ่มเศรษฐีน้ำมันที่ให้การสนับสนุนกองทัพแห่งชาติลิเบียอยู่นั่นเอง ที่ผ่านมาอิหร่านจึงร่วมมือกับตุรกีหลายประเด็นเพื่อถ่วงดุลกับซาอุดิอาระเบีย (แม้อิหร่านและตุรกีจะอยู่คนละฝ่ายในซีเรียก็ตาม) ทั้งอิหร่านและตุรกีให้การสนับสนุนกาตาร์ตอนที่ถูกซาอุและพันธมิตรปิดล้อม ตุรกีซื้อน้ำมันจากอิหร่านฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ตุรกีและอิหร่านไม่ต้องการให้ชาวเคิร์ดแยกตัวเหมือนกัน ฯลฯ
ส่วนตัวผมเชื่อว่าข่าวที่สื่อตุรกีรายงานไม่เป็นความจริง ไม่มีเหตุผลที่อียิปต์จะส่งทหารแค่ 150 นายไปช่วยซีเรียรบทั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียกับกลุ่มเศรษฐีน้ำมันยังไม่ฟื้นเต็มที่ แถมข่าวบอกว่าประสานงานกับอิหร่านด้วยยิ่งเป็นไปได้ยากมากขึ้นไปอีก ที่สื่อตุรกีรายงานข่าวแบบนี้คงมีเป้าหมาย 2 อย่าง เป้าหมายแรกคือปลุกกระแสชาตินิยมของชาวเติร์กว่าตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามส่งทหารมาประชิดชายแดนตุรกีแล้ว แนวหน้าไม่ได้อยู่ที่ลิเบียอีกต่อไป เป้าหมายที่สองคือถ้าสื่อตะวันตกรับลูกตีข่าวนี้ขึ้นมา ตุรกีก็ได้หาเสียงกับสหรัฐฯ กล่าวหาอียิปต์ว่าร่วมมือกับซีเรียและอิหร่าน ขณะที่สื่ออิหร่านตกกระไดพลอยโจน ต้องรายงานข่าวโจมตีอียิปต์ แต่ตัวเองกลับโดนตุรกีพาดพิง จึงตัดตอนเนื้อหาดังกล่าวออกไปดื้อๆ
กรณีนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการเมืองระหว่างประเทศประเด็นต่างๆมีความเกี่ยวข้องกันหมด และตัวแสดงต่างๆไม่จำเป็นต้องอยู่ฝ่ายเดียวกันเสมอไป อาจอยู่ฝั่งตรงข้ามกันก็ได้แล้วแต่กรณี ไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ผลประโยชน์เท่านั้นที่ยั่งยืน
สวัสดี
01.08.2020