กรีซเจรจากับรัสเซีย อัพเกรดระบบป้องกันภัยทางอากาศเอส-300

ภาพระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300PMU2 ในงาน MAKS-2007 (Wikimedia Commons)

มีข่าวจากสื่อ Al-Masdar News และ Репортёр ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากสื่อของกรีซอีกที รายงานว่ากรีซกำลังเจรจากับรัสเซียเพื่ออัพเกรดระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300PMU1 ระยะยิง 150 กิโลเมตร ให้เป็นรุ่น S-300PMU2 ระยะยิง 200 กิโลเมตร เพื่อถ่วงดุลกับระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของตุรกี โดยกรีซอ้างว่าโครงการนี้เป็นการอัพเกรดอาวุธรัสเซียที่กรีซมีใช้งานอยู่แล้ว ไม่ได้ซื้อของใหม่ จึงไม่เข้าข่ายที่จะถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรตามกฎหมาย Countering America’s Adversaries Through Sanctions Act หรือ CAATSA

ปัจจุบันกรีซมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300PMU1 จำนวน 2 ระบบ พร้อมจรวดรุ่น 48N6E1 ระยะยิง 150 กิโลเมตร จำนวน 96 ลูก มีที่ตั้งอยู่ที่เกาะครีต กรีซไม่ได้จัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศรุ่นนี้จากรัสเซียโดยตรง แต่ซื้อต่อจากไซปรัสอีกทีหนึ่ง เรื่องของเรื่องคือไซปรัสเซ็นสัญญาจัดหา S-300PMU1 จำนวน 2 ระบบจากรัสเซียช่วงยุค 90 เพื่อถ่วงดุลตุรกีที่ยึดครองภาคเหนือของไซปรัสอยู่ แต่ข่าวรั่วเสียก่อน ตุรกีจึงขู่จะโจมตีไซปรัสก่อนจะมีโอกาสรับมอบ S-300PMU1 ได้ ส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้ากับกรีซและรัสเซีย สุดท้ายจึงมีการทำข้อตกลงใหม่ โดยกรีซจะรับซื้อ S-300PMU1 ของไซปรัสไว้แทน เป็นสมาชิก NATO ประเทศที่สามถัดจากบัลแกเรียและสโลวาเกียที่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ไว้ใช้งาน

ถ้ากรีซอัพเกรด S-300PMU1 เป็นรุ่น S-300PMU2 ระยะยิง 200 กิโลเมตรจะส่งผลให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของกรีซมีขีดความสามารถสูงขึ้นพอสมควร แต่ก็ยังเป็นรอง S-400 ของตุรกีซึ่งมีระยะยิงระหว่าง 250 – 380 กิโลเมตร ขึ้นกับว่ารัสเซียได้ขายจรวดรุ่นล่าสุดให้ตุรกีด้วยหรือเปล่า จุดนี้รัสเซียมีโอกาสได้ประโยชน์มาก สามารถขายอาวุธให้สมาชิก NATO สองประเทศใช้สู้กันเอง แถมถ้ายุได้ถูกจุดก็มีโอกาสที่จะขาย S-400 ให้กรีซได้อีกประเทศหนึ่งด้วย

สวัสดี

16.09.2020

คลิปกรีซทดสอบยิงระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300PMU1 เมื่อปี 2013

แสดงความคิดเห็น