รถถังเบา Panzer 38(t) รถถังเช็กที่เยอรมันใช้บุกฝรั่งเศส

ภาพรถถังเบา LT-38 หรือ Panzer 38(t) ตั้งแสดงที่ Museum of Slovak National Uprising
(Vassia Atanassova – Spiritia/ Wikimedia Commons)

เชโกสโลวาเกีย (Czechoslovakia) เป็นประเทศเกิดใหม่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แยกตัวออกมาจากจัรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีเดิม มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ โดยมีแคว้นหนึ่งชื่อแคว้นซูเดเตนลันด์ (Sudetenland) มีคนเชื้อสายเยอรมันอาศัยอยู่มาก หลังอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ผนวกออสเตรียในเดือนมีนาคม ค.ศ.1938 จึงเล็งเป้าหมายจะผนวกซูเดเตนลันด์เป็นอันดับถัดไป ส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ซูเดเตนลันด์ ต่อมาวันที่ 30 กันยายน ค.ศ.1938 อังกฤษและฝรั่งเศสก็ยอมตามข้อเรียกร้องของฮิตเลอร์ทำข้อตกลงมิวนิก (Munich Agreement) ซึ่งชาวเช็กเรียกว่าการทรยศที่มิวนิก (Munich Betrayal) ให้เยอรมนีผนวกซูเดเตนลันด์ได้ แต่ทว่าสุดท้ายเยอรมนีก็ผนวกเชโกสโลวาเกียทั้งประเทศในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ.1939 โดยจัดให้แคว้นโบฮีเมียและโมราเวียเป็นรัฐอารักขาของเยอรมนี ส่วนสโลวาเกียเป็นประเทศบริวาร

การที่เยอรมนีสามารถยึดครองเชโกสโลวาเกียได้ในปี ค.ศ.1938 – 1939 นอกจากจะส่งผลให้เยอรมนีได้ดินแดนและประชากรเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เยอรมนีเข้าถึงโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยหลายรุ่น หนึ่งในนั้นคือรถถังเบา LT vz.38 หรือที่เยอรมันเรียกว่า Panzerkampfwagen 38(t) หรือเรียกสั้นๆว่า Panzer 38(t) ด้วย

รถถังเบา Panzer 38(t) มีน้ำหนัก 9.8 ตัน ใช้พลประจำรถ 4 นาย (ผู้บังคับการรถซึ่งรับหน้าที่พลยิงด้วย, พลบรรจุ, พลขับ และพลวิทยุ)ติดอาวุธปืนใหญ่ขนาด 37 มิลลิเมตร และปืนกลขนาด 7.92 มิลลิเมตร 2 กระบอก ใช้เครื่องยนต์ขนาด 123.3 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 42 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการไกลสุด 250 กิโลเมตร จะเห็นได้ว่า Panzer 38(t) มีอำนาจการยิงเทียบเท่ารถถัง Panzer III รุ่นแรกๆซึ่งเป็นรถถังกลางเลยทีเดียว แถมยังมีความเร็วและความคล่องตัวมากกว่าด้วย ถือว่าเป็นกำลังเสริมให้หน่วยยานเกราะเยอรมันซึ่งมีรถถัง Panzer III และ Panzer IV ไม่เพียงพอต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยภารกิจหลักของ Panzer 38(t) คือการบุกทะลวงเข้าไปป่วนแนวหลังข้าศึก อาศัยความเร็วให้เป็นประโยชน์ หลีกเลี่ยงการปะทะกับยานเกราะข้าศึกซึ่งหน้า เนื่องจากมีเกราะบาง (การปราบยานเกราะข้าศึกเป็นภารกิจของ Panzer III)

รถถังเบา Panzer 38(t) เป็นกำลังรบหลักของกองพลพันเซอร์ที่ 7 (7th Panzer Division) ฉายากองพลปีศาจ (division fantôme) หรือกองพลผี (Ghost Division) ของพลตรีเออร์วิน รอมเมล (Erwin Rommel) ในการบุกยุโรปตะวันตกและฝรั่งเศสช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ค.ศ.1940 จากจำนวนรถถัง 200 คันของกองพลพันเซอร์ที่ 7 ในจำนวนนี้เป็น Panzer 38(t) ถึง 99 คัน ซึ่งรอมเมลก็ได้ใช้จุดเด่นเรื่องความเร็วและอำนาจการยิงของรถถังรุ่นนี้อย่างเต็มที่ เมื่อถึงวันที่ 20 มิถุนายนซึ่งฝรั่งเศสยอมจำนน กองพลผีของรอมเมลสามารถทำลายรถถังฝรั่งเศสได้ 460 คัน และจับเชลยศึกได้มากกว่า 97,000 นาย โดยสูญเสียรถถังไปเพียง 42 คันเท่านั้น ในจำนวนนี้เป็น Panzer 38(t) จำนวน 26 คัน การที่รถถังผลิตในเชโกสโลวาเกียมีบทบาทสำคัญในความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศส มุมหนึ่งอาจมองได้ว่าเป็นกรรมสนองที่ฝรั่งเศสปล่อยให้เยอรมนียึดครองเชโกสโลวาเกียในข้อตกลงมิวนิก

หลังฝรั่งเศสยอมจำนน รถถัง Panzer 38(t) ก็ลงสมรภูมิอีกครั้งในการบุกสหภาพโซเวียต วันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.1941 ตามปฏิบัติการบาร์บารอสซ่า (Operation Barbarossa) อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้รถถัง Panzer 38(t) ถือว่าล้าสมัยแล้ว ปืนใหญ่ขนาด 37 มิลลิเมตรไม่เพียงพอต่อการรับมือรถถังรุ่นใหม่ๆของโซเวียตเช่นรถถังกลาง T-34/76 และรถถังหนัก KV-1 ได้อีก รถถัง Panzer 38(t) จึงค่อยๆถูกถอนออกจากแนวรบ นำไปดัดแปลงเป็นปืนใหญ่อัตตาจรและยานเกราะล่ารถถัง (Tank Destroyer) หลายรุ่น เช่นปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 150 มิลลิเมตร Grille, ยานเกราะล่ารถถัง Marder III และที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Jadgpanzer 38(t) Hetzer

สวัสดี

22.09.2020

คลิปรถถังเบา Panzer 38(t) ในงาน Tankfest 2015 ที่พิพิธภัณฑ์รถถัง Bovington ประเทศอังกฤษ

แสดงความคิดเห็น