(Jonj7490/ Wikimedia Commons)
หากเปรียบเทียบขีดความสามารถของกองทัพอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน โดยภาพรวมยุทโธปกรณ์ของอาเซอร์ไบจานจะทันสมัยกว่าของอาร์เมเนียอย่างเห็นได้ชัด เช่นในส่วนของรถถังหลัก อาเซอร์ไบจานมีรถถัง T-90S จำนวน 100 คัน ขณะที่อาร์เมเนียยังใช้รถถัง T-72B เป็นกำลังรบหลัก เป็นต้น สาเหตุหนึ่งเกิดจากที่ตั้งของอาร์เมเนียเป็นประเทศ land lock ไม่มีทางออกทะเล ขณะที่อาเซอร์ไบจานตั้งอยู่ติดทะเลแคสเปียน มีแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีเศรษฐกิจดีกว่า ส่งผลให้อาเซอร์ไบจานมีงบประมาณสำหรับจัดหายุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ๆมากกว่าอาร์เมเนีย โดยผู้ผลิตอาวุธหลักของอาเซอร์ไบจานได้แก่รัสเซีย ตุรกี และอิสราเอล อย่างไรก็ตามเนื่องจากทั้งอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานต่างก็เป็นประเทศอดีตสหภาพโซเวียต นอกจากนี้อาร์เมเนียยังเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมหรือ CSTO รัสเซียจึงต้องหาทางช่วยอาร์เมเนียให้สามารถถ่วงดุลกับอาเซอร์ไบจานได้ด้วย รัสเซียจึงขายขีปนาวุธ Iskander-E ให้อาร์เมเนีย เปิดตัวครั้งแรกระหว่างการสวนสนามที่กรุงเยเรวานในเดือนกันยายน ค.ศ.2016
ขีปนาวุธ Iskander-E มีระยะยิง 280 กิโลเมตร เป็นรุ่นส่งออกของขีปนาวุธ Iskander-M ระยะยิง 500 กิโลเมตรที่รัสเซียใช้เอง รถฐานยิงคันหนึ่งมีขีปนาวุธ 2 ลูก มีชนิดหัวรบให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย Iskander-E มีความคล่องตัวสูง รถฐานยิงมีความเร็วสูงสุดถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และใช้เวลาในการเตรียมการยิงเพียง 4 นาที สามารถเคลื่อนย้ายที่ตั้งได้อย่างรวดเร็ว ยากต่อการค้นหาติดตาม นอกจากนี้ขีปนาวุธ Iskander-E ยังออกแบบมาสำหรับเจาะผ่านระบบป้องกันภัยทางอากาศของข้าศึกโดยเฉพาะ (รัสเซียวางกำลังขีปนาวุธ Iskander-M ในคาลินินกราดเพื่อถ่วงดุลระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯในโปแลนด์)
ขีปนาวุธ Iskander-E เป็นกำลังรบสำคัญของอาร์เมเนียใช้ถ่วงดุลกับอาเซอร์ไบจาน จนกระทั่งในปี ค.ศ.2018 อาเซอร์ไบจานได้จัดหาจรวดหลายลำกล้อง Polonez ระยะยิง 200 กิโลเมตรจากเบลารุสและขีปนาวุธ LORA ระยะยิง 300 กิโลเมตรจากอิสราเอล ส่งผลให้ดุลอำนาจที่รัสเซียวางไว้พังทลายลง ภายหลังรัสเซียจึงขายเครื่องบินขับไล่ Su-30SM ให้อาร์เมเนีย มีขีดความสามารถเหนือกว่า MiG-29 ของอาเซอร์ไบจาน เพื่อให้อาร์เมเนียมีไพ่ตายถ่วงดุลอาเซอร์ไบจานได้ต่อไป แม้ขีดความสามารถยุทโธปกรณ์โดยรวมจะด้อยกว่า
สวัสดี
06.10.2020
