
ช่วงนี้กำลังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจที่หมู่เกาะคูริลซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่นครับ เมื่อไม่กี่วันก่อนสื่อ TASS รายงานว่าหน่วยทหารสังกัดมณฑลทหารภาคตะวันออก (Eastern Military District) ของรัสเซีย ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกไกลจะจัดการซ้อมรบ โดยระหว่างการซ้อมรบจะมีการเคลื่อนย้ายระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300V4 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวระหว่างงานสวนสนามวันแห่งชัยชนะปีนี้และพึ่งส่งมอบให้หน่วยทหารในภาคตะวันออกไกลไปวางกำลังที่หมู่เกาะคูริลด้วย ต่อมาก็มีข่าวจาก Defence-Blog รายงานว่ารัสเซียมีแผนจะเสริมกำลังรถถังหลัก T-72B3 ที่หมู่เกาะคูริลเพิ่มเติมด้วย
ความเคลื่อนไหวทางทหารของรัสเซียมีขึ้นหลังจากนายโยชิฮิเดะ ซูงะ (Yoshihide Suga) นายกฯ ญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ระบุว่าเขาต้องการเจรจาหาข้อยุติกรณีพิพาท “ดินแดนภาคเหนือ” (Northern Territories เป็นชื่อที่ญี่ปุ่นใช้เรียกหมู่เกาะคูริล) ให้ได้ภายในวาระการดำรงตำแหน่งของเขา ไม่ส่งต่อความขัดแย้งให้รุ่นต่อไป นำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซีย รวมถึงการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพ (สหภาพโซเวียตและญี่ปุ่นไม่เคยลงนามสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงครามโลกครั้งที่สอง) อ้างอิงข่าวจากสื่อ TASS
ส่วนตัวผมมองว่าความเคลื่อนไหวทางทหารของรัสเซียบริเวณหมู่เกาะคูริล ทั้งการเสริมกำลังรถถังหลัก T-72B3 และการซ้อมวางกำลังระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300V4 มีจุดประสงค์เพื่อส่งสัญญาณไปถึงญี่ปุ่นว่ารัสเซียจะไม่ประนีประนอมในประเด็นเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะคูริล ก่อนหน้านี้รัสเซียเคยเสนอให้ญี่ปุ่นและรัสเซียร่วมกันพัฒนาหมู่เกาะคูริล เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ แต่รัสเซียจะไม่ยอมยกหมู่เกาะคูริลให้ญี่ปุ่น ส่งผลให้การเจรจาหยุดชะงักไป เมื่อนายกฯ ญี่ปุ่นแสดงท่าทีต้องการเจรจาประเด็นนี้อีกครั้ง รัสเซียก็ต้องแสดงแสนยานุภาพเน้นย้ำจุดยืนเดิม
สวัสดี
30.10.2020