
สื่อ TASS และ RFE/RL รายงานว่าเมื่อวานนี้ นายกฯ รัสเซีย นายมิฮาอิล มิชูสติน (Mikhail Mishustin) ได้อนุมัติร่างข้อตกลงตั้งฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือ (naval logistics base) ในประเทศซูดาน ริมชายฝั่งทะเลแดง โดยก่อนหน้านี้ร่างข้อตกลงดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัสเซีย และทางซูดานก็เห็นชอบแล้ว ถัดจากนี้ก็จะส่งไปให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ลงนามต่อไป
ร่างข้อตกลงดังกล่าวอนุญาตให้รัสเซียจัดตั้งฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือ บริเวณท่าเรือพอร์ตซูดาน (Port Sudan) เพื่อให้เรือรบรัสเซียแวะทำการซ่อมบำรุงและเติมเสบียง โดยรัสเซียสามารถส่งเรือรบ รวมถึงเรือที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ด้วย เข้ามาเทียบท่าได้สูงสุดครั้งละ 4 ลำ ลูกเรือรวมกันไม่เกิน 300 นาย ฝั่งซูดานก็สามารถใช้งานฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือดังกล่าวได้เช่นกัน แต่ต้องตกลงกับฝั่งรัสเซียก่อน นอกจากนี้รัสเซียก็พร้อมจะส่งยุทโธปกรณ์ให้ซูดานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางอากาศต่อท่าเรือพอร์ตซูดาน ในข่าวไม่ได้ระบุว่าเป็นยุทโธปกรณ์ประเภทไหน แต่จากวัตถุประสงค์ก็คงจะเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศ ถือว่าข้อนี้ซูดานได้ประโยชน์ ได้ยุทโธปกรณ์มาป้องกันพื้นที่ท่าเรือทั้งหมด ไม่ใช่แค่ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือของรัสเซียเท่านั้น
แม้ร่างข้อตกลงดังกล่าวจะอนุญาตให้รัสเซียตั้งฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือเท่านั้น แต่ในอนาคตถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไปก็มีโอกาสพัฒนาไปเป็นฐานทัพเรือ (naval base) ทำนองเดียวกับที่เมืองทาร์ทุสของซีเรียก็ได้ ส่งผลให้รัสเซียมีบทบาทมากขึ้นในทะเลแดง หลังจากวางรากฐานอิทธิพลในทะเลเมดิเตอเรเนียนฝั่งตะวันออกมานานหลายปี ส่วนตัวผมเชื่อว่าในอนาคตรัสเซียก็จะขยับออกจากทะเลแดงเข้าสู่มหาสมุทรอินเดียจากทางทิศตะวันตกต่อไป กองเรือทะเลดำที่มีฐานทัพที่เมืองเซวาสโตโปลในไครเมียคงจะต้องรับภาระหนักเลยทีเดียว
สวัสดี
12.11.2020