รัสเซียพัฒนาอาวุุธรุ่นใหม่เตรียมทดแทนขีปนาวุธอิสกันเดอร์ในปี 2030

มีข่าวจากสื่อ TASS พลโทมิฮาอิล มัตเวเยฟสกี้ (Mikhail Matveyevsky) ผู้บัญชาการกองกำลังขีปนาวุธและปืนใหญ่ของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สื่อ Rossiyskaya Gazeta เปิดเผยว่าขีปนาวุธ Iskander-M จะยังคงตอบสนองความต้องการของกองทัพรัสเซียไปได้อีกนาน และจะเป็นอาวุธหลักของกองกำลังขีปนาวุธและปืนใหญ่อย่างน้อยถึงปี 2030 อย่างไรก็ตามรัสเซียได้เริ่มพัฒนาอาวุธรุ่นใหม่สำหรับทดแทนขีปนาวุธ Iskander-M แล้ว

ประวัติของขีปนาวุธ Iskander-M ย้อนกลับไปถึงช่วงยุค 80 ขณะนั้นสหภาพโซเวียตมีขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่เป็นกำลังรบหลัก 2 รุ่นคือ OTR-21 Tochka รุ่น Tochka-U ระยะยิง 120 กิโลเมตรและ OTR-23 Oka ระยะยิง 500 กิโลเมตร เมื่อมีการทำสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty หรือ INF) ในปี ค.ศ.1987 ซึ่งห้ามไม่ให้สหรัฐฯและสหภาพโซเวียตครอบครองขีปนาวุธและจรวดร่อนที่มีฐานยิงบนบกระยะยิงระหว่าง 500 – 5,500 กิโลเมตร สหรัฐฯอ้างว่าขีปนาวุธ Oka จริงๆแล้วมีระยะยิงไกลกว่า 500 กิโลเมตร ต้องทำลายทิ้งด้วย แม้ทางกลาโหมโซเวียตจะปฏิเสธ แต่ผู้นำโซเวียตขณะนั้น มิฮาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail Gorbachev) กลับยอมตามสหรัฐฯ ส่งผลให้ขีปนาวุธพิสัยใกล้ของโซเวียตเหลือเพียง Tochka-U ระยะยิง 120 กิโลเมตร เสียเปรียบสหรัฐฯมาก เพราะแม้สหรัฐฯจะต้องทำลายขีปนาวุธและจรวดร่อนที่มีฐานยิงบนบกของตัวเองทิ้งไปเช่นกัน แต่สหรัฐฯยังมีจรวดร่อนยิงจากเรือรบและอากาศยานซึ่งโซเวียตไม่มี กลาโหมโซเวียตจึงเร่งพัฒนาขีปนาวุธ Iskander อย่างลับๆเพื่อทดแทน Oka แต่สหภาพโซเวียตกลับล่มสลายเสียก่อน หลังจากนั้นรัสเซียก็เผชิญภาวะถังแตก มีวิกฤตหนักในทุกๆด้าน ส่งผลให้กว่า Iskander จะได้เข้าประจำการก็ปี ค.ศ.2006 และพึ่งทดแทนขีปนาวุธรุ่นเก่ารวมถึง Tochka-U ครบทั้งหมดเมื่อไม่นานมานี้ โดยรุ่นที่รัสเซียใช้เองคือ Iskander-M มีระยะยิง 500 กิโลเมตร ส่วนรุ่นส่งออกคือ Iskander-E มีระยะยิง 280 กิโลเมตร เนื่องจากถูกจำกัดโดยข้อตกลง Missile Technology Control Regime หรือ MTCR ปัจจุบันลูกค้าต่างประเทศของ Iskander-E ประกอบด้วยอาร์เมเนียและแอลจีเรีย

สวัสดี

30.11.2020