(U.S. Army photo by Sgt. Alexander Skripnichuk, 13th Public Affairs Detachment)
สื่อ UNIAN และ Defence-Blog รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท UkrOboronProm ได้ส่งมอบรถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-80 ที่ผ่านการฟื้นคืนสภาพและอัพเกรดแล้วให้กองทัพยูเครนอีกชุดหนึ่ง แพคเกจการอัพเกรดประกอบด้วยการติดตั้งระบบกล้องตรวจจับความร้อน และระบบตรวจการณ์รุ่นใหม่สำหรับการรบในเวลากลางคืน รวมถึงติดตั้งระบบสื่อสารแบบดิจิตอลซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับระบบ NATO ได้
รถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-80 พัฒนาต่อยอดมาจากรถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-70 เข้าประจำการในกองทัพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ.1986 มีน้ำหนัก 13.6 ตัน ใช้พลประจำรถ 2 นายและบรรทุกทหารได้อีก 8 นาย ติดอาวุธปืนกล KPVT ขนาด 14.5 มิลลิเมตร และปืนกลร่วมแกน PKT ขนาด 7.62 มิลลิเมตร ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 260 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 80 – 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ 600 กิโลเมตร มีคุณสมบัติสะเทินน้ำสะเทินบก สามารถเคลื่อนที่ในน้ำได้ด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สังเกตว่าแม้ยูเครนจะพัฒนารถหุ้มเกราะล้อยางรุ่นใหม่ออกมาหลายรุ่นในช่วงเวลาประมาณยี่สิบปีที่ผ่านมาเช่น BTR-3 ซึ่งมีขนาดตัวรถใหญ่ขึ้น ติดอาวุธอำนาจการยิงรุนแรงขึ้น และ BTR-4 ซึ่งออกแบบไปในแนวทางของ NATO แต่กองทัพยูเครนก็ยังคงใช้รถหุ้มเกราะล้อยางจากยุคโซเวียตคือ BTR-80 และ BTR-70 เป็นกำลังรบหลักอยู่ โดยปัจจุบันกองทัพบกยูเครนมี BTR-80 ใช้งานอยู่ประมาณ 350 คัน ขณะที่ BTR-3 และ BTR-4 มีใช้งานรวมกันประมาณ 250 คันเท่านั้น แม้ในช่วงที่ผ่านมายูเครนจะมีการจัดหา BTR-3 เข้าประจำการหลายร้อยคันแต่ส่วนใหญ่ถูกส่งให้หน่วยในสังกัดของกองกำลังพิทักษ์ชาติ National Guard เช่น Azov Battalion ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่มาจากกลุ่มนีโอนาซีที่มีบทบาทสำคัญในการโค่นล้มอดีตประธานาธิบดียานูโควิชเมื่อปี ค.ศ.2014 นำไปสู่เหตุการณ์ในไครเมียและดอนบาส และเป็นฐานอำนาจของรัฐบาลยูเครน โดยปัจจุบันกองกำลังพิทักษ์ชาติของยูเครนมี BTR-3 ใช้งานอยู่ประมาณ 260 คัน และรถหุ้มเกราะล้อยางรุ่นเก่าจากยุคโซเวียตคือ BTR-60, BTR-70 และ BTR-80 รวมกันประมาณ 100 คัน
สวัสดี
05.12.2020
