เรือประจัญบานชั้นสหภาพโซเวียต สุดยอดเรือรบที่ต่อไม่เสร็จ

ภาพโดย Miguel Á. Padriñán จาก Pixabay

ในปี ค.ศ.1938 สหภาพโซเวียตเริ่มดำเนินงานตามแผนพัฒนากองทัพเรือ 5 ปี ฉบับที่สาม ซึ่งเน้นต่อเรือรบขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเรือโซเวียตให้เท่าเทียมกับชาติมหาอำนาจอำนาจอื่นๆ ตามแนวคิดของอิโอซิฟ สตาลิน (Iosif Stalin) ผู้นำโซเวียต ตามแผนนี้โซเวียตจะต่อเรือประจัญบานจำนวน 19 ลำ ส่วนหนึ่งจะเป็นเรือในชั้น Sovetsky Soyuz หรือสหภาพโซเวียตนั่นเอง

แม่โซเวียตจะพึ่งเริ่มต่อเรือประจัญบานชั้นสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ.1938 แต่ความจริงโซเวียตเริ่มศึกษาแนวทางการต่อเรือประจัญบานมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1935 หลังจากเยอรมนีสมัยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) เริ่มกลับมาฟื้นฟูกองทัพอีกครั้ง โดยภัยคุกคามหลักขณะนั้นคือเรือประจัญบานชาร์นฮอร์สต์ (Scharnhorst) โซเวียตได้ส่งคณะผู้แทนไปศึกษาและซื้อแบบเรือจากสหรัฐฯและอิตาลีเพื่อนำมาต่อเองภายในประเทศ ซึ่งอู่ต่อเรือของอิตาลีก็เสนอแบบเรือประจัญบานลิตตอริโอ (Littorio) ระวางขับน้ำ 42,000 ตัน ขณะที่อู่ต่อเรือของสหรัฐนเสนอแบบเรือ 4 แบบๆ แรกเป็นแบบเรือประจัญบานมาตรฐาน ขณะที่อีกสามแบบเป็นการผสมผสานระหว่างเรือประจัญบานและเรือบรรทุกเครื่องบิน แม้จะมีแบบเรือให้เลือกหลายแบบ แต่สุดท้ายโซเวียตก็ตัดสินใจออกแบบเรือประจัญบานใหม่ด้วยตัวเอง

ภาพเรือประจัญบาน Littorio ซึ่งอิตาลีเสนอแบบเรือให้โซเวียต
(Bundesarchiv, Bild 183-S54286 / CC-BY-SA 3.0)

โซเวียตเริ่มกำหนดสเปกเรือประจัญบานของตัวเองเป็นครั้งแรกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1936 กองทัพเรือโซเวียตต้องการเรือประจัญบานระวางขับน้ำ 55,000 ตัน ติดอาวุธปืนเรือขนาด 460 มิลลิเมตร 9 กระบอก ความเร็วสูงสุด 36 นอต ซึ่งสูงเกินกว่าที่อู่ต่อเรือของโซเวียตจะรองรับได้ ในเดือนพฤษภาคมจึงมีการปรับลดความเร็วเหลือ 30 นอต รวมถึงลดจำนวนปืนรองและปืนต่อสู้อากาศยานลงด้วย แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ผ่านไปไม่กี่เดือนก็มีการปรับสเปกของเรืออีกรอบ ลดระวางขับน้ำเหลือ 45,000 ตันและลดขนาดปืนเรือเหลือ 406 มิลลิเมตร แม้สเปกนี้ดูเหมือนจะลงตัวแล้ว ก็ยังเกิดปัญหาขึ้นอีกจนได้เมื่อโซเวียตทำข้อตกลงจำกัดกำลังรบทางเรือกับอังกฤษในปี ค.ศ.1937 กำหนดห้ามไม่ให้ต่อเรือประจัญบานที่มีระวางขับน้ำเกิน 35,000 ตัน มีข้อยกเว้นให้ในกรณีที่โซเวียตต้องต่อเรือประจัญบานขนาดใหญ่เพื่อรับมือภัยคุกคามจากญี่ปุ่น แต่ต้องแจ้งอังกฤษล่วงหน้าก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานโซเวียตก็มีการกำหนดสเปกเรือประจัญบานใหม่อีกครั้ง มีระวางขับน้ำ 41,500 ตัน ติดอาวุธปืนเรือขนาด 406 มิลลิเมตร 9 กระบอก ปืนรองขนาด 152 มิลลิเมตร 12 กระบอก ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 100 มิลลิเมตร 12 กระบอก และปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 37 มิลลิเมตร 40 กระบอก หุ้มเกราะหนา 380 มิลลิเมตร ความเร็ว 30 นอต แต่สเปกนี้ก็ยังไม่ลงตัวอยู่ดี เนื่องจากนักออกแบบต้องการให้ต่อเรือขนาดใหญ่ที่มีระวางขับน้ำสูงๆมากกว่าเรือขนาดเล็ก สุดท้ายสตาลินจึงเป็นผู้ตัดสินชี้ขาดให้ต่อเรือประจัญบานระวางขับน้ำ 56,000 ตัน ประเด็นนี้จึงได้ข้อยุติ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เริ่มต่อเรือ ก็เกิดการกวาดล้างครั้งใหญ่ (The Great Purge) ขึ้นพอดี ส่งผลให้คณะทำงานถูกเปลี่ยนยกชุดและกำหนดอนุมัติแบบเรือก็ถูกเลื่อนจากวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ.1937 ไปเป็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1938 และเริ่มวางกระดูกงูเรือในวันที่ 15 กรกฎาคมปีเดียวกัน อย่างไรก็ตามแบบเรือดังกล่าวก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ประกอบกับเทคโนโลยีทางเรือของโซเวียตหลายอย่างยังอยู่ระหว่างการทดลอง ส่งผลให้ต้องมีการรื้อแก้ไขใหม่อยู่เรื่อยๆจนถึงเดือนมกราคม ปี ค.ศ.1941

ตามแบบเรือ เรือประจัญบาน Project 23 Sovietsky Soyuz หรือสหภาพโซเวียต จะมีระวางขับน้ำสูงสุดถึง 65,000 ตัน ใหญ่กว่าเรือประจัญบานบิสมาร์ค (Bismarck) ของเยอรมนีเสียอีก โดยมีขนาดใกล้เคียงกับเรือประจัญบานยามาโตะ (Yamato) ของญี่ปุ่น ติดอาวุธปืนเรือขนาด 406 มิลลิเมตร 9 กระบอก (3 ป้อมๆละ 3 กระบอก) ปืนรองขนาด 152 มิลลิเมตร 12 กระบอก (6 ป้อมๆละ 2 กระบอก) ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 100 มิลลิเมตร 12 กระบอก (6 ป้อมๆละ 2 กระบอก) ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 37 มิลลิเมตร 40 กระบอก (10 แท่นๆละ 4 กระบอก) ความเร็ว 28 นอต

ภาพการทดสอบปืนเรือขนาด 406 มิลลิเมตร
(Wikimedia Commons/ Public Domain)

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1938 โซเวียตมีแผนจะต่อเรือประจัญบานสหภาพโซเวียตจำนวน 15 ลำ ก่อนจะปรับลดเหลือ 14 ลำในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1939 โดยจะเริ่มต่อ 8 ลำแรกภายในปี ค.ศ.1942 และอีก 6 ลำที่เหลือภายในปี ค.ศ.1947 แต่ทว่าเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สองขึ้น โซเวียตพึ่งจะเริ่มต่อเรือชั้นนี้ได้เพียง 4 ลำเท่านั้น สาเหตุสำคัญมาจากอู่ต่อเรือของโซเวียตมีขีดความสามารถและองค์ความรู้จำกัด ไม่สามารถต่อเรือรบขนาดใหญ่พร้อมกันจำนวนมากได้ ส่งผลให้ในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ.1940 สตาลินจึงมีคำสั่งให้ระงับการต่อเรือประจัญบานนอกเหนือจาก 4 ลำนี้ไว้ชั่วคราว เพื่อโยกทรัพยากรไปให้กองทัพบกซึ่งมีความจำเป็นมากกว่า แต่ทว่าเมื่อเยอรมนีบุกสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ.1941 โครงการต่อเรือประจัญบานสหภาพโซเวียตก็ต้องถูกระงับไปโดยปริยาย

เรือประจัญบานสหภาพโซเวียตทั้ง 4 ลำที่เริ่มต่อแล้ว ก่อนที่จะถูกระงับประกอบด้วย

1.เรือประจัญบานสหภาพโซเวียต (Sovietsky Soyuz) เริ่มวางกระดูกงูวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ.1938 ที่อู่ต่อเรือเลนินกราด แต่การต่อเรืออย่างจริงจังพึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม ค.ศ.1939 เมื่อเยอรมนีบุกโซเวียตในปี ค.ศ.1941 เรือลำนี้พึ่งจะต่อเสร็จไปประมาณ 20% ระหว่างการปิดล้อมเมืองเลนินกราด เรือลำนี้ถูกทิ้งระเบิดได้รับความเสียหายเล็กน้อย และชิ้นส่วนบางส่วนถูกถอดไปใช้งาน หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง โซเวียตพิจารณาว่าเรือประจัญบานล้าสมัยแล้ว จึงตัดสินใจไม่ต่อเรือลำนี้ต่อและนำไปแยกชิ้นส่วนในปี ค.ศ.1948

ภาพถ่ายทางอากาศของเยอรมนีในวันที่ 26 มิถุนายน 1941 แสดงให้เห็นเรือประจัญบานชั้น Sovietsky Soyuz และเรือลาดตระเวณชั้น Chapayev ในอู่ต่อเรือที่เลนินกราด (Stanley, Roy M., Col. Eastern Front Images: Imagery from WWII and Cold War Intelligence Files. Barnsley, UK: Pen & Sword Aviation, 2016)

2.เรือประจัญบานโซเวียตยูเครน (Sovetskaya Ukraina) เริ่มวางกระดูกงูวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.1938 ที่อู่ต่อเรือเมืองนิโคลาเยฟในยูเครน เมื่อเยอรมนีบุกโซเวียต เรือลำนี้พึ่งจะต่อเสร็จประมาณ 18% เท่านั้น เคราะห์ซ้ำกรรมซัด กองทัพเยอรมันสามารถยึดเมืองนิโคลาเยฟ รวมถึงเรือโซเวียตยูเครนที่อยู่ในอู่แล้วถอดชิ้นส่วนไปใช้งาน ต่อมาเมื่อเยอรมนีต้องถอยทัพออกจากโซเวียตในปี ค.ศ.1944 ทหารเยอรมันก็จัดการสร้างความเสียหายให้เรือโซเวียตยูเครนไม่ให้สามารถต่อเรือได้อีก โซเวียตจึงต้องตัดสินใจยุบเรือลำนี้ทิ้งในปี ค.ศ.1947

3.เรือประจัญบานโซเวียตเบลารุส (Sovetskaya Belorussiya) เริ่มวางกระดูกงูเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.1939 แต่การต่อเรือถูกระงับช่วงกลางปี ค.ศ.1940 หลังมีการค้นพบว่าหมุดที่ใช้ในการต่อเรือมากกว่า 70,000 ตัวคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ต่อมาในวันที่ 19 ตุลาคมปีเดียวกัน การต่อเรือลำนี้ก็ถูกยกเลิก โดยชิ้นส่วนต่างๆถูกถอดไปใช้ในการป้องกันเมืองเลนินกราด ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง

4.เรือประจัญบานโซเวียตรัสเซีย (Sovetskaya Rossiya) เริ่มวางกระดูกงูเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ.1940 หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง พึ่งจะต่อไปได้ประมาณ 1% เท่านั้น โซเวียตตัดสินใจยุบเรือลำนี้ในปี ค.ศ.1947

สวัสดี

27.02.2021

แสดงความคิดเห็น