ขีดความสามารถรถถังหลัก T-72AMT ของยูเครน

ภาพรถถังหลัก T-72AMT ของยูเครน (VoidWanderer/ Wikimedia Commons/ CC BY-SA 4.0)

รถถัง T-72AMT ของยูเครนเกิดจากการนำรถถัง T-72A ในคลังของยูเครนมาอัพเกรดให้ทันสมัยเท่าที่งบประมาณของยูเครนจะอำนวย มีการเปิดตัวรถต้นแบบตั้งแต่ปี ค.ศ.2017 แต่กองทัพยูเครนพึ่งจะเริ่มรับมอบเข้าประจำการชุดแรกในเดือนมกราคม ค.ศ.2020

รถถัง T-72AMT มีน้ำหนัก 46 ตัน มีขนาดยาว 9.53 เมตรเมื่อหันป้อมปืนไปด้านหน้า (เฉพาะตัวรถมีความยาว 6.9 เมตร) กว้าง 3.46 เมตร สูง 2.2 เมตร มีพลประจำรถ 3 นาย ติดอาวุธปืนใหญ่ขนาด 125 มิลลิเมตร 2A46 อัพเกรดให้สามารถยิงจรวดต่อสู้รถถัง Kombat ระยะยิง 5 กิโลเมตรจากในลำกล้องได้, ปืนกลร่วมแกนขนาด 7.62 มิลลิเมตร และปืนกลหนักต่อสู้อากาศยานขนาด 12.7 มิลลิเมตรควบคุมด้วยรีโมท มีการเสริมเกราะ ERA รุ่น Nozh ใช้เครื่องยนต์ดีเซล V-84-1 ขนาด 840 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ 500 – 700 กิโลเมตร ราคาเฉลี่ยคันละ 1.2 ล้านเหรียญ

แม้ T-72AMT จะเป็นรถถัง T-72 รุ่นปรับปรุงใหม่ล่าสุดของยูเครน แต่คุณสมบัติโดยรวมไม่น่าสนใจมากนัก จุดเด่นที่เหนือกว่ารถถัง T-72 รุ่นอื่นๆมีเพียงปืนกล 12.7 มิลลิเมตรที่ ผบ.รถถัง สามารถควบคุมด้วยรีโมทจากในป้อมปืนได้เท่านั้น ในขณะที่รถถัง T-72B3 ของรัสเซีย ผบ.รถถัง ต้องเปิดฝาป้อมออกมาซึ่งเสี่ยงต่อการถูกยิง สำหรับการป้องกันตัว แม้รถถัง T-72AMT จะติดเกราะ ERA รุ่น Nozh รุ่นเดียวกับรถถัง Oplot-M ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าเกราะ ERA รุ่น Kontakt-5 ของรถถัง T-72B3 และ T-90A แต่เกราะพื้นฐานของ T-72A นั้นบางกว่า T-72B และ T-90A มาก ไม่รู้ว่าในสถานการณ์จริง เกราะ ERA รุ่น Nozh จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน

ข้อด้อยสำคัญของรถถัง T-72AMT คือระบบภายในตัวรถ ยูเครนเพียงแต่ติดตั้งกล้องมองกลางคืนเพิ่มให้ ผบ.รถถังและพลยิงเท่านั้น ไม่มีกล้องตรวจจับความร้อน ยังต้องใช้ไฟค้นหาอินฟราเรดเหมือนเดิม ส่งผลให้มีข้อจำกัดในการรบเวลากลางคืน นอกจากนี้รถถัง T-72AMT ยังไม่มีระบบติดตามเป้าหมายอัตโนมัติด้วย ในขณะที่รถถัง T-72B3 ของรัสเซียมีระบบเหล่านี้

สำหรับเครื่องยนต์ แม้รถถัง T-72AMT จะเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลจากรุ่น V-46 ขนาด 780 แรงม้ามาใช้เครื่องยนต์ดีเซล V-84-1 ขนาด 840 แรงม้าเท่ากับรถถัง T-72B3 รุ่นปี 2011 แต่ก็ยังด้อยกว่ารถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 หรือที่นิยมเรียกกันว่า T-72B3M ซึ่งใช้เครื่องยนต์ดีเซล V-92S2F ขนาด 1,130 แรงม้า

โดยภาพรวมรถถัง T-72AMT เป้นการนำรถถัง T-72A ในคลังของยูเครนมาอัพเกรดให้ทันสมัยเท่าที่งบประมาณจะอำนวย พูดง่ายๆคือทำให้มีราคาถูกที่สุดนั่นเองจนได้ฉายาว่ารถถัง T-72 ของคนจน (Poor Man’s T-72) จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจว่าเมื่ออัพเกรดออกมาแล้วจะยังสู้รถถังรัสเซียไม่ได้ ส่วนตัวผมมองว่ายูเครนต้องการใช้รถถัง T-72AMT ในภารกิจสนับสนุนทหารราบและช่วยขัดตาทัพขณะที่ยูเครนอัพเกรดรถถัง T-64 และ T-80 ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าออกมาเท่านั้น แม้รถถัง T-72AMT จะสู้รถถังรุ่นใหม่ๆไม่ได้ แต่สำหรับประเทศโลกที่สามที่มีงบประมาณจำกัดและไม่ได้มีภัยคุกคามจากรถถังรุ่นใหม่ ขีดความสามารถของ T-72AMT ก็ถือว่าไม่ได้น่าเกลียด สามารถตอบโจทย์เรื่องงบประมาณของประเทศเหล่านี้ได้

สวัสดี

11.05.2021

คลิปรถถัง T-72AMT ของยูเครน

แสดงความคิดเห็น