ขีดความสามารถรถถังหลัก T-72B3 รุ่นปี 2016 (T-72B3M) ของรัสเซีย

รถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 หรือ T-72B3M ของรัสเซีย พัฒนาต่อยอดมาจากรถถัง T-72B3 รุ่นปี 2011 เปิดตัวครั้งแรกระหว่างงานสวนสนามวันแห่งชัยชนะ 9 พฤษภาคม ค.ศ.2017 และการซ้อมรบร่วม Zapad-2017 กับเบลารุส มีน้ำหนัก 46 ตัน มีพลประจำรถ 3 นายได้แก่ ผบ.รถถัง พลยิง และพลขับ

รถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 ติดอาวุธปืนใหญ่ขนาด 125 มิลลิเมตรรุ่น 2A46M5 (รุ่นเดียวกับรถถัง T-90MS) สามารถยิงจรวดต่อสู้รถถังจากในลำกล้องได้, ปืนกลร่วมแกน PKTM ขนาด 7.62 มิลลิเมตร และปืนกลหนักต่อสู้อากาศยานขนาด 12.7 มิลลิเมตร Kord ซึ่งยังคงใช้งานแบบแมนวล ไม่ได้ควบคุมด้วยรีโมทจากในตัวรถ ส่งผลให้เวลาใช้งาน ผบ.รถถังต้องเปิดฝาป้อมออกมา มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการถูกซุ่มยิงหรือสะเก็ดระเบิด ความสามารถในการรบเวลากลางคืนของรถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 ก็ยังค่อนข้างจำกัด เพราะถึงแม้พลยิงจะมีกล้องเล็ง Sosna-U ไว้ใช้งาน แต่ ผบ.รถถัง กลับไม่มีกล้อง CITV แต่อย่างใด มีเพียงกล้องเล็งอินฟราเรดเท่านั้น แม้ ผบ.รถถังจะสามารถใช้กล้องจับความร้อนของพลยิง ค้นหาและกำหนดเป้าหมายให้พลยิงได้ด้วย ช่วยให้รถถังรุ่นนี้มีคุณสมบัติ Hunter-Killer ในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่สะดวกอยู่ดี

ในส่วนของการป้องกันตัว รถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 มีการเสริมเกราะบริเวณด้านข้างตัวรถและป้อมปืน ขณะที่ด้านท้ายรถก็มีการติดเกราะตะแกรงเพิ่มเติม ส่งผลให้สามารถรับมือภัยคุกคามได้รอบทิศทางมากขึ้น แต่ก็ยังมีจุดอ่อนตรงที่เกราะ ERA ยังคงใช้รุ่น Kontakt-5 ยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้รุ่น Relikt ตามที่เคยวางแผนไว้แต่อย่างใด เกราะ Kontakt-5 แม้จะทดสอบในซีเรียแล้วว่าสามารถป้องกันจรวดต่อสู้รถถัง TOW ของสหรัฐฯได้ แต่เกราะรุ่นนี้ไม่สามารถป้องกันหัวรบ tandem และกระสุนเจาะเกราะ APFSDS รุ่นใหม่ๆได้แล้ว ถือเป็นข้อด้อยสำคัญของรถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 ในการรับมือรถถังและจรวดต่อสู้รถถังรุ่นใหม่ๆ จุดอ่อนสำคัญที่สุดของรถถังรุ่นนี้อยู่ที่บริเวณด้านซ้ายของป้อมปืน บริเวณที่ติดตั้งเครื่องยิงระเบิดควัน เพราะไม่มีการเสริมเกราะ ERA แต่อย่างใด

รถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล V-92S2F ขนาด 1,130 แรงม้า (รุ่นเดียวกับรถถัง T-90MS) ความเร็วสูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยภาพรวมแม้รถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 จะได้รับการอัพเกรดเพิ่มขีดความสามารถทั้งอำนาจการยิง การป้องกันตัว และความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ จนเป็นหนึ่งในรถถัง T-72 รุ่นอัพเกรดที่ดีที่สุดในโลก แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณของรัสเซีย ที่ต้องการอัพเกรดรถถังรุ่นนี้ในราคาถูกที่สุด ส่งผลให้คุณสมบัติหลายด้านพัฒนาไปไม่สุด เช่นการที่ ผบ.รถถังไม่มีกล้อง CITV ส่งผลให้คุณสมบัติ Hunter-Killer ไม่สมบูรณ์ หรือการที่เกราะ ERA ยังคงใช้ Kontakt-5 รุ่นเก่าแทนที่จะเปลี่ยนไปเป็นรุ่น Relikt ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า เป็นต้น

ปัจจุบันกองทัพรัสเซียมีรถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 ใช้งานอยู่ประมาณ 570 คัน และมีการจัดหาเพิ่มเติมเรื่อยๆ

สวัสดี

18.05.2021