
(Max Smith/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ญี่ปุ่นถูกห้ามไม่ให้มีกำลังทหาร รวมถึงห้ามไม่ให้พัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วย องค์ความรู้ในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของญี่ปุ่นที่สั่งสมมาถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจึงค่อยๆสูญหายไป แต่เมื่อเกิดสงครามสงครามเกาหลี (Korean War) ขึ้นในปี ค.ศ.1950 สหรัฐฯจึงให้ญี่ปุ่นจัดตั้งกองทัพอีกครั้ง เพื่อป้องกันอิทธิพลลัทธิคอมมิวนิสต์จากสหภาพโซเวียตและจีน โดยเลี่ยงบาลีใช้ชื่อว่ากองกำลังตำรวจติดอาวุธซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นกองกำลังป้องกันตนเอง (Japan Self-Defense Forces – JSDF) ในปัจจุบัน
ในช่วงแรกๆสหรัฐฯมอบรถถังสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเช่นรถถังกลาง M4 Sherman และรถถังเบา M24 Chaffee ให้ญี่ปุ่นใช้งาน แต่เนื่องจากสหรัฐฯมีความจำเป็นต้องใช้รถถังสองรุ่นนี้ในสงครามเกาหลีเช่นกัน สหรัฐฯจึงถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตอะไหล่รถถังให้ญี่ปุ่น เพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ต้องรบกวนสายการส่งบำรุงของสหรัฐฯในสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นจึงมีโอกาสได้เรียนรู้การออกแบบและการผลิตชิ้นส่วนรถถังค่ายสหรัฐฯ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศของญี่ปุ่นจึงเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง
แม้กองทัพสหรัฐฯจะยังใช้งานรถถัง Sherman และ Chaffee อย่างแพร่หลายในสงครามเกาหลี แต่ในช่วงยุค 50 รถถังทั้งสองรุ่นถือว่าล้าสมัยแล้ว ญี่ปุ่นมีความจำเป็นต้องจัดหารถถังรุ่นใหม่มาทดแทน ตอนแรกสหรัฐฯเสนอขายรถถังหลัก M47 Patton ให้ญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นตัดสินใจพัฒนารถถังรุ่นใหม่เอง ใช้บริการบริษัท Mitsubishi เริ่มโครงการในปี ค.ศ.1955 ใช้ประสบการณ์จากสงครามเกาหลี เกิดเป็นรถถังหลัก Type-61 เข้าประจำการในปี ค.ศ.1961

รถถัง Type-61 มีน้ำหนัก 35 ตัน มีความยาว 8.19 เมตรเมื่อหันป้อมปืนไปด้านหน้า ตัวรถมีขนาดยาว 6.03 เมตร กว้าง 2.95 เมตร สูง 2.49 เมตร ใช้พลประจำรถ 4 นายได้แก่พลขับ พลยิง พลบรรจุ และ ผบ.รถถัง ติดอาวุธปืนใหญ่ขนาด 90 มิลลิเมตร ปืนกลร่วมแกน M1919A4 ขนาด 7.62 มิลลิเมตร และปืนกลหนัก M2 ขนาด 12.7 มิลลิเมตร ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 570 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ 200 กิโลเมตร
แม้รถถัง Type-61 ของญี่ปุ่นจะมีขีดความสามารถสูง เมื่อเทียบกับรถถังกลาง T-34/85 ผลิตในสหภาพโซเวียต และรถถังหนัก M26 Pershing ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งถูกใช้งานแพร่หลายในสงครามเกาหลี แต่เทคโนโลยีของรถถังรุ่นนี้ถือว่าล้าสมัยแล้วเมื่อเทียบกับรถถังรุ่นใหม่ล่าสุดของสหรัฐฯและสหภาพโซเวียตในขณะนั้น ในปี ค.ศ.1961 รถถังหลัก T-62 รุ่นใหม่ของโซเวียตเข้าประจำการ มีขีดความสามารถเหนือกว่ารถถัง Type-61 มาก ส่งผลให้ญี่ปุ่นต้องเริ่มพัฒนารถถังรุ่นใหม่ทั้งที่รถถัง Type-61 พึ่งเข้าประจำการได้ไม่ถึงหนึ่งปี แต่กว่ารถถังรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นคือรถถังหลัก Type-74 จะพัฒนาเสร็จและเข้าสู่สายการผลิตก็ปี ค.ศ.1975 ญี่ปุ่นจึงต้องใช้งานรถถัง Type-61 ไปก่อน โดยในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1961 – 1975 ญี่ปุ่นได้ผลิตรถถัง Type-61 ออกมา 560 คัน
ปัจจุบันรถถัง Type-61 ของญี่ปุ่นถูกปลดประจำการแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ.2000
สวัสดี
29.06.2021