
(Staff Sgt. Vance/ United States Marine Corps/ Public Domain)
ปืนใหญ่ลากจูงขนาด 155 มิลลิเมตร M198 ผลิตโดยบริษัท Rock Island Arsenal เข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯเมื่อปี ค.ศ.1979 ทดแทนปืนใหญ่ M114 ซึ่งใช้งานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ปืนใหญ่ M198 อยู่ในสายการผลิตจนถึงปี ค.ศ.1992 ถูกผลิตออกมามากกว่า 1,600 กระบอก
ปืนใหญ่ M198 มีน้ำหนัก 7.17 ตัน มีขนาดความกว้างปากลำกล้อง 155 มิลลิเมตร ความยาวลำกล้อง 39 คาลิเบอร์ สามารถเลือกใช้กระสุนได้หลายชนิดเช่นกระสุนระเบิดแรงสูง กระสุนควัน กระสุนฟอสฟอรัสขาว ฯลฯ กระสุนปกติมีระยะยิง 22 กิโลเมตร แต่ถ้าใช้กระสุนต่อระยะจะมีระยะยิงเพิ่มขึ้นเป็น 30 กิโลเมตร อัตราการยิงสูงสุด 4 นัดต่อนาที อัตราการยิงต่อเนื่อง 2 นัดต่อนาที ใช้พลประจำปืน 11 นาย ปืนใหญ่ M198 สามารถเคลื่อนย้ายทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง CH-47 Chinook และ CH-53E Super Stallion
ปืนใหญ่ M198 เป็นกำลังรบสำคัญของทหารปืนใหญ่สหรัฐฯตั้งแต่ช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย ไปจนถึงปฏิบัติการในอัฟกานิสถานและอิรัก สหรัฐฯปลดประจำการปืนใหญ่รุ่นนี้ในปี ค.ศ.2005 ทดแทนด้วยปืนใหญ่ M777 ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่า ออสเตรเลียก็เป็นประเทศผู้ใช้งานปืนใหญ่ M198 อีกประเทศหนึ่งที่ปลดประจำการปืนใหญ่รุ่นนี้แล้วเช่นกัน
แม้สหรัฐฯและออสเตรเลียจะปลดประจำการปืนใหญ่ M198 ไปแล้ว แต่ปืนใหญ่รุ่นนี้ก็ยังถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศบาห์เรน บราซิล เอกวาดอร์ ฮอนดูรัส อิรัก เลบานอน โมร็อกโก ปากีสถาน ซาอุดิอาระเบีย โซมาเลีย ตูนิเซีย และไทย
กองทัพบกไทยจัดหาปืนใหญ่ M198 เข้าประจำการครั้งแรกในปี ค.ศ.1982 ถือเป็นปืนใหญ่ที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียนในขณะนั้น ปืนใหญ่รุ่นนี้ช่วยให้ไทยสามารถตอบโต้ปืนใหญ่ M-46 ขนาด 130 มิลลิเมตร ซึ่งมีระยะยิง 27 กิโลเมตร ที่ประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันออกได้รับมาจากสหภาพโซเวียตได้ ปัจจุบันกองทัพบกไทยมีปืนใหญ่ M198 ใช้งานอยู่จำนวน 116 กระบอก ผ่านสมรภูมิมาหลายครั้งตั้งแต่ร่มเกล้าจนถึงการปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
สวัสดี
25.07.2021