
(Dmitry A. Mottl/ Wikimedia Commons/ CC BY-SA 3.0)
ปืนใหญ่ลากจูงกระสุนวิถีโค้งขนาด 152 มิลลิเมตร D-20 หรือ M1955 ของสหภาพโซเวียต ผลิตโดยโรงงานปืนใหญ่หมายเลข 9 ที่เมืองเยคาเตรินเบิร์ก เข้าประจำการในกองทัพโซเวียตช่วงต้นยุค 50 เพื่อทดแทนปืนใหญ่ขนาด 152 มิลลิเมตรรุ่นเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง อย่างไรก็ตามโซเวียตพึ่งจะเปิดตัวปืนใหญ่รุ่นนี้ครั้งแรกระหว่างงานสวนสนามวันแรงงานในปี ค.ศ.1955 จึงเป็นที่มาของชื่อ M1955 นั่นเอง
ปืนใหญ่ D-20 มีน้ำหนัก 5.7 ตัน มีขนาดความกว้างปากลำกล้อง 152 มิลลิเมตร ความยาวลำกล้อง 34 คาลิเบอร์ มีระยะยิงไกลสุด 17.4 กิโลเมตร อัตราการยิงสูงสุด 5 – 6 นัดต่อนาที ใช้พลประจำปืน 10 นาย การย้ายที่ตั้งปกติจะใช้รถแทรกเตอร์ลากปืนใหญ่เช่น AT-L หรือ AT-S และรถบรรทุกเช่นรถบรรทุก 6×6 Ural 375D หรือรถบรรทุก 8×8 Tatra-813
ในช่วงต้นสงครามเย็น ทหารปืนใหญ่โซเวียตและประเทศพันธมิตรที่ใช้ปืนใหญ่ D-20 และ M-46 ขนาด 130 มิลลิเมตร มีขีดความสามารถเหนือกว่าและมีระยะยิงไกลกว่าทหารปืนใหญ่ของสหรัฐฯและพันธมิตรที่ยังคงใช้งานปืนใหญ่ M101 ขนาด 105 มิลลิเมตรและปืนใหญ่ M114 ขนาด 155 มิลลิเมตรจากยุคสงครามโลกครั้งที่สองเป็นกำลังรบหลักอยู่ ต้องรอจนถึงช่วงปลายยุค 70 เมื่อปืนใหญ่ M198 ขนาด 155 มิลลิเมตรเข้าประจำการแล้ว ปืนใหญ่ลากจูงของฝ่ายตะวันตกจึงจะมีขีดความสามารถสูสีกับของโซเวียต
ระหว่างสงครามเย็น สหภาพโซเวียตได้ส่งปืนใหญ่ D-20 ให้ประเทศพันธมิตรใช้งานอย่างแพร่หลาย ผ่านสมรภูมิสำคัญๆทั้งในสงครามเวียดนาม สงครามอาหรับ-อิสราเอล สงครามจีน-อินเดีย สงครามอินเดีย-ปากีสถาน ฯลฯ บางประเทศเช่นจีน เกาหลีเหนือ บัลแกเรีย และยูโกสลาเวียมีการตั้งสายการผลิตปืนใหญ่รุ่นนี้ภายในประเทศด้วย
ปัจจุบันปืนใหญ่ D-20 ยังคงถูกใช้งานในกองทัพประเทศต่างๆมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกเช่น อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน บัลแกเรีย ฮังการี เวียดนาม อิหร่าน มอลโดวา นิการากัว ซีเรีย เติร์กเมนิสถาน ยูเครน ฯลฯ สำหรับกองทัพรัสเซียได้ปลดประจำการปืนใหญ่ D-20 แล้ว แต่ยังมีสำรองไว้ในคลังมากกว่า 1,000 กระบอก
สวัสดี
28.07.2021