
(DON S. Montgomery/ U.S.Navy/ Public Domain)
ช่วงปลายยุค 50 สหภาพโซเวียตได้กำหนดหลักนิยมทางทหารใหม่ มองว่าหน่วยทหารมีโอกาสที่จะต้องปฏิบัติการในสภาวะสงครามนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี (นชค.) มากขึ้น แต่รถลำเลียงพลที่กองทัพโซเวียตใช้อยู่ในขณะนั้น คือรถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-40 และ BTR-152 ต่างก็เป็นรถแบบเปิดประทุน ไม่มีหลังคา ไม่เหมาะสำหรับใช้งานในสภาวะสงคราม นชค. นอกจากนี้รถหุ้มเกราะล้อยางทั้งสองรุ่นยังมีเกราะบางมาก ไม่สามารถปฏิบัติการรบในแนวหน้าสุดร่วมกับรถถังได้ กองทัพโซเวียตต้องการรถลำเลียงพลรุ่นใหม่ ที่มีความเร็วและอำนาจการยิงสูง มีเกราะหนาพอจะป้องกันกระสุนปืนกลหนักขนาด 12.7 มิลลิเมตรได้ สามารถปฏิบัติการร่วมกับรถถังในแนวหน้าได้ รถรบทหารราบ BMP-1 จึงถือกำเนิดขึ้น
รถรบทหารราบ BMP-1 เข้าประจำการในปี ค.ศ.1966 และเปิดตัวสู่สาธารณชนครั้งแรกในปี ค.ศ.1967 ส่งผลให้ NATO เรียกยานเกราะรุ่นนี้ว่า M1967 หรือ BMP-76PB มีน้ำหนัก 13 ตัน มีขนาดยาว 6.74 เมตร กว้าง 2.94 เมตร สูง 2.15 เมตร ใช้พลประจำรถ 3 นายและสามารถบรรทุกทหารได้ 8 นาย ติดอาวุธปืนใหญ่ 2A28 Grom ขนาด 73 มิลลิเมตร ปืนกลร่วมแกน PKT ขนาด 7.62 มิลลิเมตร และจรวดต่อสู้รถถัง 9M14 Malyutka (AT-3 Sagger) เกราะของ BMP-1 สามารถป้องกันกระสุนปืนกลหนักขนาด 12.7 มิลลิเมตรได้ ระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ดีเซล UTD-20 ขนาด 300 แรงม้า มีความเร็วสูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ 600 กิโลเมตร มีคุณสมบัติสะเทินน้ำสะเทินบก สามารถเคลื่อนที่ในน้ำด้วยความเร็ว 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในสหภาพโซเวียต BMP-1 อยู่ในสายการผลิตจนถึงปี ค.ศ.1983 ถูกผลิตออกมามากกว่า 20,000 คัน ในช่วงสงครามเย็น สหภาพโซเวียตได้ส่ง BMP-1 ให้ประเทศพันธมิตรทั้งในยุโรปตะวันออกและตะวันออกกลางใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยมีสายการผลิตในประเทศเชโกสโลวาเกีย โปแลนด์ และโรมาเนียด้วย แม้แต่จีนก็จัดหา BMP-1 มือสองจากอียิปต์แล้วนำมาลอกเลียนแบบเป็นรถรบทหารราบ Type-86
ระหว่างสงครามยมคิปปูร์ (Yom Kippur War) ผู้เชี่ยวชาญจากโซเวียตที่ถูกส่งไปเก็บข้อมูลปฏิบัติการรบของกองทัพซีเรียและอียิปต์พบว่าปืนใหญ่ขนาด 73 มิลลิเมตรของ BMP-1 ขาดความแม่นยำในระยะไกล รวมถึงป้อมปืนยังคับแคบเกินไปส่งผลให้เล็งเป้าจรวดต่อสู้รถถังได้ลำบาก นอกจากนี้เกราะด้านข้างและด้านหลังของ BMP-1 ยังป้องกันกระสุนปืนกลหนักขนาด 12.7 มิลลิเมตรได้ไม่ค่อยดีนัก โซเวียตนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการพัฒนารถรบทหารราบ BMP-2 ติดอาวุธปืนใหญ่อัตโนมัติขนาด 30 มิลลิเมตรและจรวดต่อสู้รถถัง 9M113 Konkurs (AT-5 Spandrel) เข้าประจำการในปี ค.ศ.1980
ปัจจุบันกองทัพรัสเซียยังมี BMP-1 ใช้งานอยู่ประมาณ 1,000 คันและมีสำรองไว้ในคลังมากกว่า 7,000 คัน นอกจากรัสเซียแล้ว BMP-1 ก็ยังมีประจำการในกองทัพประเทศต่างๆมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกเช่น อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน อังโกลา แอลจีเรีย บัลแกเรีย กรีซ จอร์เจีย อินเดีย อิรัก อิหร่าน โปแลนด์ มองโกเลีย ซีเรีย ซูดาน เติร์กเมนิสถาน ยูเครน กัมพูชา เวียดนาม ฯลฯ
สวัสดี
05.08.2021