
รถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-4 ของยูเครน มีชื่อเล่นว่าบูเซฟาลัส (Bucephalus) ตั้งตามชื่อม้าของอเล็กซานเดอร์มหาราช เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ.2006 และได้รับอนุมัติให้เข้าประจำการในกองทัพยูเครนในปี ค.ศ.2008 แต่ทว่าเนื่องจากในขณะนั้นกองทัพยูเครนขาดแคลนงบประมาณ จึงไม่ได้จัดหารถหุ้มเกราะล้อยางรุ่นนี้เข้าประจำการแต่อย่างใด BTR-4 จึงถูกเสนอขายให้ต่างประเทศ โดยอิรักเป็นลูกค้าประเทศแรกสั่งซื้อจำนวน 420 คันในปี ค.ศ.2011 แต่ทว่าหลังจากส่งมอบได้เพียง 88 คัน อิรักก็ยกเลิกสัญญาเนื่องจากไม่พอใจประสิทธิภาพของ BTR-4 ยูเครนพึ่งจะเริ่มจัดหา BTR-4 ชุดแรกรวม 194 เข้าประจำการในปี ค.ศ.2014 หลังเกิดการสู้รบในดอนบาส (เป็นของกองทัพยูเครน 154 คันและกระทรวงมหาดไทย 40 คัน) ในปี ค.ศ.2017 อินโดนีเซียได้จัดหา BTR-4 จำนวน 5 คันให้นาวิกโยธินไปทดลองใช้งาน โดยมีแผนจะจัดหาเพิ่มเติมอีก 55 คัน แต่สุดท้ายนาวิกโยธินอินโดนีเซียกลับไม่ประทับใจประสิทธิภาพของ BTR-4 โครงการจึงถูกยกเลิก แล้วอินโดนีเซียก็หันไปจัดหารถรบทหารราบ BMP-3F และรถสายพานลำเลียงพล BT-3F จากรัสเซียแทน ต่อมาในปี ค.ศ.2018 มีข่าวว่านาวิกโยธินไทยสนใจ BTR-4 แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จัดหา อาจกล่าวได้ว่ารถหุ้มเกราะล้อยางรุ่นนี้ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ
รถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-4 มีน้ำหนัก 18 ตัน มีขนาดยาว 7.76 เมตร กว้าง 2.93 เมตร สูง 3.02 เมตร มีพลประจำรถ 3 นายและสามารถบรรทุกทหารได้ 7 – 9 นาย โดยทางขึ้นจะอยู่ทางด้านท้ายรถเหมือนรถหุ้มเกราะล้อยางของค่าย NATO ต่างจากรถหุ้มเกราะล้อยางตระกูล BTR รุ่นก่อนๆที่ทางขึ้นจะอยู่ด้านข้างของตัวรถ BTR-4 มีป้อมปืนให้เลือกติดตั้งได้หลายรุ่น แต่ระบบอาวุธปกติจะประกอบด้วยปืนใหญ่อัตโนมัติขนาด 30 มิลลิเมตร ปืนกลร่วมแกนขนาด 7.62 มิลลิเมตร จรวดต่อสู้รถถัง Konkurs หรือ Barrier และเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติขนาด 30 มิลลิเมตร เกราะของ BTR-4 สามารถป้องกันกระสุนขนาด 7.62 มิลลิเมตรและสะเก็ดระเบิดได้ ระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3TD ขนาด 500 แรงม้า มีความเร็วสูงสุด 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ 690 กิโลเมตร มีคุณสมบัติสะเทินน้ำสะเทินบก สามารถเคลื่อนที่ในน้ำด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สวัสดี
18.08.2021