
(Dmottl/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
เมื่อวานนี้ออสเตรเลียได้ยกเลิกโครงการจัดหาเรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้าจากฝรั่งเศส เตรียมหันไปจัดหาเรือดำน้ำนิวเคลียร์จากสหรัฐฯแทน ตามข้อตกลง AUKUS ที่ออสเตรเลียทำกับสหรัฐฯและอังกฤษ ส่งผลให้ฝรั่งเศสไม่พอใจมาก สื่อ The Guardian รายงานว่าฝรั่งเศสถึงกับกล่าวหาออสเตรเลียว่าทรยศต่อความเชื่อใจในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และแทงข้างหลังฝรั่งเศส
แม้ส่วนหนึ่งฝรั่งเศสอาจจะไม่พอใจที่ต้องสูญเสียรายได้กว่า 50,000 ล้านยูโรให้สหรัฐฯ แต่ความจริงแล้วฝรั่งเศสสั่งสมความไม่พอใจมาก่อนหน้านั้นแล้ว เพราะกรณีเรือดำน้ำของออสเตรเลีย ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฝรั่งเศสเสียลูกค้าอาวุธรายใหญ่ให้สหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็มีข่าวในสื่อ Reuters ว่าสวิตเซอร์แลนด์เลือกจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A จากสหรัฐฯ แทนที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale จากฝรั่งเศส
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ.2016 ก็มีข่าวในสื่อ France 24 ว่าโปแลนด์ได้ยกเลิกการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง H225M Caracal จำนวน 50 ลำจากบริษัท Airbus แล้วหันไปจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง Black Hawk จากสหรัฐฯแทน ส่งผลให้ฝรั่งเศสไม่พอใจมาก ที่น่าเจ็บใจสำหรับฝรั่งเศส คือมีข้อมูลในสื่อ Defense News ระบุว่าฝรั่งเศสคาดหวังกับโครงการนี้ไว้เยอะ เพราะต้องการรายได้มาทดแทนที่ฝรั่งเศสยกเลิกการขายเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Mistral ให้รัสเซีย (ฝรั่งเศสต้องขายเรือ Mistral ชุดดังกล่าวให้อียิปต์ในราคาขาดทุน เพราะระบบบนเรือออกแบบมารองรับระบบอาวุธของรัสเซีย จึงมีตัวเลือกลูกค้าไม่มาก)
ก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ.2013 แคนาดาก็มีโครงการจัดหารถหุ้มเกราะจำนวน 108 คัน มูลค่ากว่า 2 พันล้านเหรียญ โดยรถหุ้มเกราะจากบริษัท Nexter ของฝรั่งเศสมีแนวโน้มจะชนะการประกวด แต่สุดท้ายแคนาดากลับยกเลิกโครงการดังกล่าว อ้างว่าไม่มีความจำเป็น เพราะขณะนั้นแคนาดาได้ถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานแล้ว แต่มีข้อมูลจากสื่อ CBC แฉว่าจริงๆแล้วรัฐบาลแคนาดากลัวบริษัท General Dynamics ของสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในแคนาดาและได้ส่งรถหุ้มเกราะของตัวเองเข้าประกวดในโครงการดังกล่าวด้วยจะเสียผลประโยชน์ต่างหาก
เมื่อฝรั่งเศสถูกสหรัฐฯเตะตัดขาหรือแย่งลูกค้าอาวุธชนิดต่างๆทั้งเรือดำน้ำ เครื่องบินขับไล่ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง และรถหุ้มเกราะต่อเนื่องมาหลายปี ก็ไม่น่าแปลกใจที่ฝรั่งเศสจะไม่พอใจสหรัฐฯมากครับ
สวัสดี
17.09.2021