ตุรกีเผชิญปัญหาภาวะเงินเฟ้อรุนแรงและค่าครองชีพสูง

ภาพประธานาธิบดีเรเซป ตัยยิป แอร์โดอัน ของตุรกี (US Department of State/ Flickr)

ขณะนี้ตุรกีกำลังเผชิญปัญหาเงินเฟ้อขั้นรุนแรง อัตราเงินเฟ้อขณะนี้พุ่งสูงถึง 19.25% ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้นมาก ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจากสื่อ Al Jazeera ว่านักศึกษาในหลายเมืองของตุรกีออกมาประท้วง เพราะค่าเช่าอพาร์ทเมนท์แพงขึ้นมากจนจ่ายไม่ไหว นักศึกษาคนหนึ่งเล่าว่าเดิมเขาเคยจ่ายค่าเช่าอพาร์ทเมนท์แค่เดือนละ 750 ลีรา แต่ตอนนี้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 2,000 ลีรา

แม้ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลตุรกีจะพยายามสร้างหอพักนักศึกษาเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเพิ่มทุนการศึกษาด้วย แต่ก็ยังไม่เพียงพอรองรับนักศึกษาทั้งหมดอยู่ดี นักศึกษาจำนวนมากยังต้องเช่าบ้านหรืออพาร์ทเมนท์อยู่ แต่ค่าเช่าได้พุ่งสูงขึ้นมาก สาเหตุหนึ่งเพราะเศรษฐกิจตุรกีต้องพึ่งพาภาคอสังหาริมทรัพย์พอสมควร แต่ช่วงที่ผ่านมาค่าเงินลีราตก ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างที่ต้องนำเข้ามีราคาสูงขึ้นมาก ราคาบ้านจึงแพงตามไปด้วย รัฐบาลตุรกีพยายามแก้ปัญหาโดยการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อจูงใจให้คนซื้อบ้าน แต่สุดท้ายคนที่มาซื้อจริงๆกลับเป็นนายทุนซื้อบ้านไปปล่อยเช่า และค่าเช่าก็ปรับขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ เพราะนายทุนต้องการเงินไปชำระหนี้

นอกจากค่าเช่าที่อยู่อาศัยแล้ว ราคาอาหารในตุรกีก็แพงขึ้นเช่นเดียวกัน มีข่าวจากสื่อ Daily Sabah และ Reuters รายงานว่าภาวะราคาอาหารเฟ้อ (food inflation) ของตุรกีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้พุ่งสูงขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วและ 3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ประธานาธิบดีแอร์โดอัน (Erdogan) กล่าวหาบริษัทเครือซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ที่สุด 5 แห่งของตุรกีว่าขายอาหารแพง ทำให้เกิดภาวะราคาอาหารเฟ้อ จากนั้นแอร์โดอันก็สั่งให้เปิดตลาดใหม่ 1,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อนำสินค้าและอาหารมาขายในราคาถูก หวังจะดึงราคาให้ต่ำลงมา แม้จะยังไม่แน่ชัดว่ามาตรการนี้จะช่วยให้ค่าครองชีพในตุรกีลดลงหรือไม่ แต่ตอนนี้ราคาหุ้นบริษัทเครือซูเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าวได้ตกลงมาเรียบร้อยแล้ว

ที่น่าสนใจคือขณะที่อัตราดอกเบี้ยและค่าครองชีพในตุรกีสูงขึ้นเรื่อยๆ กลับมีข่าวจาก Financial Times ว่าประธานาธิบดีแอร์โดอันกดดันให้แบงก์ชาติของตุรกีลดอัตราดอกเบี้ย เพราะรัฐบาลตุรกีต้องการเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งที่มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงมากขึ้น

เห็นได้ชัดว่าตุรกีกำลังยืนอยู่บนทางสองแพร่ง เนื่องจากที่ผ่านมาเศรษฐกิจตุรกีก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ถ้ารัฐบาลตุรกีไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เศรษฐกิจตุรกีก็อาจหยุดชะงักไปเลย แต่ถ้าลดอัตราดอกเบี้ย ทุ่มเงินเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะยิ่งส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อและค่าครองชีพสูงมากขึ้น กระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน เป็นบททดสอบสำคัญของประธานาธิบดีแอร์โดอัน

สวัสดี

04.10.2021

แสดงความคิดเห็น