จรวด PG-7VR สำหรับ RPG-7 ตัวเลือกสำหรับประเทศที่ไม่มีงบพอจัดหา RPG-29

ภาพเครื่องยิงจรวด RPG-7 กับจรวด PG-7VR ติดหัวรบ Tandem HEAT
(Vitaly V. Kuzmin/ http://vitalykuzmin.net/ CC BY-SA 4.0)

เครื่องยิงจรวดตระกูล RPG ของสหภาพโซเวียต โดยเฉพาะรุ่น RPG-7 ถือเป็นหนึ่งในอาวุธต่อสู้รถถังที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ออกแบบมาให้ใช้งานและบำรุงรักษาได้ง่าย ไม่ซับซ้อน นอกจากใช้ทำลายรถถังแล้ว ยังใชเในภารกิจอื่นๆเช่นสังหารบุคคล ทำลายบังเกอร์และที่มั่นต่างๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม RPG-7 นั้นเข้าประจำการในกองทัพโซเวียตตั้งแต่ปี ค.ศ.1961 ปัจจุบันผ่านมา 60 ปีถือว่าเก่ามากแล้ว และจรวดตระกูล PG-7 ส่วนใหญ่ซึ่งใช้หัวรบ HEAT ก็ไม่สามารถเจาะเกราะด้านหน้าของรถถังรุ่นใหม่ๆได้แล้ว ดังนั้นในการรับมือรถถังรุ่นใหม่ๆ กองกำลังติดอาวุธต่างๆจึงมักเลือกใช้ RPG รุ่นใหม่กว่าอย่าง RPG-29 Vampir ซึ่งเข้าประจำการในปี ค.ศ.1989 แทน มีผลงานเจาะเกราะรถถังรุ่นใหม่ๆมาแล้วทั้ง M1 Abrams, Challenger 2, Merkava และ T-72 ด้วยจรวด PG-29V ซึ่งใช้หัวรบ Tandem HEAT สามารถเจาะเกราะเหล็กกล้าหนา 750 มิลลิเมตรหรือในกรณีที่รถถังมีการเสริมเกราะปฏิกิริยาระเบิด (ERA) หลังจากเจาะผ่าน ERA ไปแล้วก็ยังเจาะเกราะเหล็กกล้าหนา 650 มิลลิเมตรได้ จึงสามารถใช้ทำลายรถถังส่วนใหญ่ได้ ขอแค่เป้าหมายอยู่ในระยะยิงหวังผล 500 – 800 เมตรก็พอ

แม้ RPG-29 จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องราคา เนื่องจาก RPG-29 ถูกออกแบบมาช่วงปลายยุค 80 เพื่อจัดการกับรถถังรุ่นใหม่ๆของค่าย NATO ในขณะนั้นเช่น M1 Abrams และ Leopard 2 โดยเฉพาะ จรวดที่ใช้ในภารกิจต่อสู้รถถังจึงมีเพียง PG-29V เท่านั้น ซึ่งจากขีดความสามารถที่กล่าวไป ถ้าเอาจรวดรุ่นนี้ไปยิงรถถังรุ่นเก่าๆเช่น T-54/55 รวมถึงยานเกราะประเภทอื่นๆที่ไม่ได้มีเกราะหนาแบบรถถัง ก็ถือว่า overkill มาก เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน ดังนั้นสำหรับประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศยากจน ที่ไม่ได้มีภัยคุกคามจากชาติมหาอำนาจ การลงทุนจัดหา RPG-29 เพื่อเอามายิงรถถัง T-55 ของประเทศเพื่อนบ้านจึงถือว่าเกินความจำเป็น สำหรับประเทศเหล่านี้ RPG-7 จะมีความเหมาะสมมากกว่า เพราะราคาไม่แพง มีชนิดจรวดให้เลือกใช้งานได้อเนกประสงค์กว่า จรวดตระกูล PG-7 รุ่นเก่าๆที่ใช้หัวรบ HEAT ก็ยังมีประสิทธิภาพพอรับมือรถถังรุ่นเก่าสมัยสงครามเย็นได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีความจำเป็นต้องปะทะกับรถถังรุ่นใหม่ RPG-7 ก็มีจรวด PG-7VR ให้เลือกใช้งานได้

จรวด PG-7VR ถูกพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ.1988 ใช้หัวรบ Tandem HEAT สามารถเจาะเกราะ ERA และเกราะเหล็กกล้าหนาสุด 750 มิลลิเมตรได้ เรียกว่ามีอำนาจการยิงพอๆกับจรวด PG-29V ของ RPG-29 เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามจรวด PG-7VR มีข้อด้อยสำคัญคือมีระยะยิงหวังผลประมาณ 100 – 200 เมตรเท่านั้น ถ้ายิงจากระยะไกลกว่านั้นจะขาดความแม่นยำ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของ RPG-7 อยู่แล้ว

กล่าวโดยสรุป RPG-29 ถือเป็นหนึ่งในอาวุธต่อสู้รถถังแบบประทับบ่าที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด สามารถเจาะเกราะรถถังได้หนากว่าอาวุธต่อสู้รถถังแบบประทับบ่ารุ่นอื่นๆ เช่นปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง Carl Gustav M3 และ AT-4 มาก อย่างไรก็ตาม RPG-29 ออกแบบมาสำหรับภารกิจทำลายรถถังรุ่นใหม่ๆโดยเฉพาะ จึงมีราคาแพงและมีชนิดจรวดให้เลือกใช้งานน้อย ขาดความยืดหยุ่น (นอกจากจรวด PG-29V แล้ว RPG-29 ก็มีเพียงจรวด TBG-29V ติดหัวรบเทอร์โมบาริคเท่านั้น) ดังนั้นสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่มีงบประมาณจำกัด และไม่ได้มีภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจรุนแรงมากนัก การใช้งาน RPG-7 ซึ่งถูกใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลกมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นต่อไป ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะมีราคาถูก ใช้งานและบำรุงรักษาง่าย มีชนิดจรวดให้เลือกใช้งานในภารกิจต่างๆได้หลากหลายยืดหยุ่นกว่า โดยอาจสำรองจรวด PG-7VR ซึ่งมีประสิทธิภาพพอๆกับจรวด PG-29V ของ RPG-29 เผื่อไว้ตามความจำเป็น แต่ก็ต้องทำใจเรื่องระยะยิงและความแม่นยำว่าอาจสู้ RPG-29 ไม่ได้

สวัสดี

08.10.2021

แสดงความคิดเห็น