10 ปี รถถัง T-72B3 จากรถถังขัดตาทัพสู่กำลังหลักของกองทัพรัสเซีย

ภาพรถถัง T-72B3 รุ่นปี 2011 ของรัสเซีย ในงานสวนสนามวันแห่งชัยชนะ ค.ศ.2017 ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (Viktor Karasev/123RF)

วันที่ 25 ตุลาคมที่จะถึงนี้ จะเป็นวันครบรอบ 10 ปี ที่รถถัง T-72B3 ชุดแรกเข้าประจำการในกองทัพบกรัสเซียเมื่อปี ค.ศ.2011 เกิดจากการอัพเกรดรถถัง T-72B รุ่นปี 1985 จากยุคสหภาพโซเวียตให้มีขีดความสามารถใกล้เคียงกับรถถัง T-90A Vladimir เพื่อประหยัดงบประมาณ ระหว่างรอรถถัง T-14 Armata รุ่นใหม่เข้าประจำการในปี ค.ศ.2015 – 2020 อย่างไรก็ตามแม้รถถังรุ่นนี้จะถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ขัดตาทัพเท่านั้น แต่ปัจจุบัน 10 ปีผ่านไป รถถังรุ่นนี้ได้กลายมาเป็นกำลังรบหลักของรัสเซียไปแล้ว ปัจจุบันกองทัพรัสเซียมีรถถัง T-72B3 รุ่นปี 2011 และรถถัง T-72B3 รุ่นปี 2016 หรือ T-72B3M รวมกันมากกว่า 1,240 – 1,380 คัน คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนรถถังประจำการของรัสเซีย (กองทัพรัสเซียมีรถถังประจำการประมาณ 2,700 คัน แต่มีรถถังยุคโซเวียตสำรองไว้ในคลังอีกประมาณ 20,000 คัน ในจำนวนนี้เป็นรถถัง T-72 ประมาณ 7,000 คัน)

รถถัง T-72B3 รุ่นแรกหรือรุ่นปี 2011 มีน้ำหนัก 46 ตัน ติดอาวุธปืนใหญ่ 125 มิลลิเมตรรุ่น 2A46M-5 ซึ่งมีระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติแบบใหม่ สามารถยิงกระสุนเจาะเกราะ APFSDS รุ่นใหม่อย่าง 3BM59 Svinets-1 และ 3BM60 Svinets-2 ได้, ปืนกลร่วมแกน PKT ขนาด 7.62 มิลลิเมตร และปืนกลหนัก Kord ขนาด 12.7 มิลลิเมตร มีระบบควบคุมการยิงที่ทันสมัยและกล้องเล็งแบบ Sosna-U สำหรับพลยิง แต่ ผบ.รถถังยังคงใช้กล้องอินฟราเรด รถถัง T-72B3 ได้รับการเสริมเกราะปฏิกิริยาระเบิด ERA รุ่น Kontakt-5 แบบเดียวกับรถถัง T-72B รุ่นปี 1989 และ T-90A ระบบขับเคลื่อนยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล V-84-1 ขนาด 840 แรงม้าเหมือนรถถัง T-72B รุ่นเก่า มีความเร็วสูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ 500 กิโลเมตร

จะเห็นได้ว่าจุดเด่นของรถถัง T-72B3 อยู่ที่ระบบภายในตัวรถ ซึ่งได้รับการอัพเกรดให้ทันสมัย แม้จะไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แบบรถถัง T-90MS ที่เปิดตัวในปีเดียวกันก็ตาม เพราะยังขาดกล้อง CITV สำหรับ ผบ.รถถังและระบบนำทาง แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในรถถังที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซียในขณะนั้น นอกจากนี้การที่ T-72B3 สามารถใช้กระสุนเจาะเกราะ APFSDS รุ่นใหม่ของรัสเซียได้ ก็ส่งผลให้มีอำนาจการยิงเหนือกว่ารถถังยูเครน (รวมทั้ง BM Oplot) ซึ่งยังคงใช้กระสุน 3BM42 Mango จากยุคโซเวียตอยู่ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้กองกำลังดอนบาสซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย รบชนะกองทัพยูเครนระหว่างปี ค.ศ.2014 – 2015 ขณะที่เกราะ Kontakt-5 แม้ปัจจุบันจะถือว่าเก่าแล้ว เพราะมีใช้งานมาตั้งแต่ยุค 80 ในรถถัง T-80U และ T-72B รุ่นปี 1989 ของโซเวียต แต่ผลการทดสอบในซีเรียก็แสดงให้เห็นว่าเกราะ ERA รุ่นนี้ยังสามารถป้องกันจรวดต่อสู้รถถัง TOW ของสหรัฐฯได้อยู่ ดังนั้นสำหรับรถถังขัดตาทัพราคาถูก (ข้อมูลบางแหล่งระบุว่ารถถัง T-72B3 ราคาคันละประมาณ 3 ล้านเหรียญ รวมตัวรถถัง T-72B ในคลังที่นำมาอัพเกรดแล้ว) ก็ถือว่าทำผลงานได้ดีทีเดียว ข้อด้อยของรถถัง T-72B3 อยู่ที่เกราะเสริมยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร และเครื่องยนต์ขนาด 840 แรงม้าก็มีกำลังน้อยเกินไป แสดงให้เห็นระหว่างการแข่งขันรถถัง Tank Biathlon ต่อมารัสเซียจึงได้อัพเกรดรถถัง T-72B3 เพิ่มเติมเป็น T-72B3 รุ่นปี 2016 หรือนิยมเรียกกันสั้นๆว่า T-72B3M เปิดตัวครั้งแรกระหว่างการซ้อมรบ Zapad-2017 โดยการเสริมเกราะบริเวณด้านข้างตัวรถ รวมถึงเสริมเกราะตะแกรงบริเวณด้านหลังป้อมปืนกับเครื่องยนต์ และเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นรุ่น V-92S2F ขนาด 1,130 แรงม้า มีความเร็วสูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ไม่มีการอัพเกรดระบบภายในตัวรถเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ส่วนตัวผมมองว่ารถถัง T-72B3 ทั้งรุ่นปี 2011 และ 2016 สำหรับรัสเซียถือว่าเป็นรถถังที่ดีถ้าใช้ตามที่ถูกออกแบบมาคือเป็นรถถังขัดตาทัพ ราคาถูก ระหว่างรอรถถัง T-14 Armata เข้าประจำการ แต่เมื่อโครงการ T-14 ล่าช้ากว่ากำหนด และปรากฏว่ารัสเซียมีงบประมาณไม่มากพอจะแทนที่รถถังเก่าทั้ง T-72, T-80 และ T-90 ทั้งหมดด้วย T-14 ได้ แล้วรถถัง T-72B3 จะยังคงเป็นกำลังรบหลักของรัสเซียร่วมกับรถถัง T-80BVM และ T-90M ในระยะยาวถ้าไม่มีการอัพเกรด T-72B3 เพิ่ม โดยเฉพาะระบบภายในตัวรถที่ยังขาดๆเกินๆอยู่จะมีปัญหาได้ เพราะถึงแม้รถถัง T-72B3 จะยังมีขีดความสามารถเหนือกว่ารถถังส่วนใหญ่ของยูเครนและประเทศอดีตสหภาพโซเวียตอื่นๆ แต่อย่าลืมว่ารถถังรุ่นนี้จะต้องถูกใช้ถ่วงดุลกับรถถังรุ่นใหม่ๆของสหรัฐฯและ NATO ด้วย ปัจจุบันรัสเซียไม่ใช่สหภาพโซเวียตแล้ว ไม่มีกำลังพลและยุทโธปกรณ์มากพอจะใช้จำนวนเข้าว่าอย่างเดียวได้ ประสิทธิภาพรถถังแต่ละคันถือว่ามีความสำคัญ และวิธีการอัพเกรดรถถัง T-72B3M ที่ง่ายที่สุดตามความคิดของผมตอนนี้คือเอาระบบภายในของรถถัง T-72B1MS ที่มีเพียบพร้อมทั้งกล้อง CITV และระบบนำทางมายัดใส่เข้าไป และเปลี่ยนเกราะ ERA จาก Kontakt-5 เป็น Relikt เหมือน T-80BVM และ T-90M

กล่าวโดยสรุป ในช่วง 10 ปีแรกหลังจากที่รถถัง T-72B3 เข้าประจำการในกองทัพรัสเซีย ถือว่ารถถังรุ่นนี้ทำหน้าที่ได้ดีในฐานะรถถังขัดตาทัพ ราคาถูก แต่เมื่อรัสเซียไม่สามารถจัดหารถถัง T-14 Armata จำนวนมากเข้าประจำการได้ตามแผน ก็ส่งผลให้หลังจากนี้สถานะของรถถัง T-72B3 ก็จะเปลี่ยนไปเป็นกำลังรบหลักของกองทัพรัสเซีย คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนรถถังประจำการทั้งหมด ความท้าทายต่อไปคือรถถังขัดตาทัพรุ่นนี้จะสามารถทำหน้าที่ดังกล่าวได้ดีแค่ไหน และจะมีการอัพเกรดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ต้องติดตามต่อไป

สวัสดี

15.10.2021

คลิปรถถัง T-72B3 รุ่นปี 2011 และ 2016 ของกองทัพรัสเซีย

แสดงความคิดเห็น