รถถัง M4 Sherman ของสหรัฐฯ ในสงครามโลกครั้งที่สอง

ภาพรถถัง M4 Sherman ในพิพิธภัณฑ์กองทัพโปแลนด์
(Аимаина хикари/ Wikimedia Commons/ Public Domain)

รถถังกลาง M4 Sherman ของสหรัฐฯ ตั้งชื่อตามนายพลวิลเลียม ที. เชอร์แมน (William T. Sherman) นายทหารฝ่ายเหนือสมัยสงครามกลางเมืองอเมริกา (American Civil War) เป็นหนึ่งในรถถังที่มีชื่อเสียงที่สุดและเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสงครามโลกครั้งที่สอง ใช้งานโดยกองทัพสหรัฐฯและชาติพันธมิตรทั้งอังกฤษ สหภาพโซเวียต และกองทัพฝรั่งเศสเสรี ถูกผลิตออกมามากกว่า 49,234 คันตลอดสงคราม

ในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง การพัฒนารถถังของสหรัฐฯยังล้าหลังฝ่ายเยอรมันมาก ประกอบกับหลักนิยมของสหรัฐฯยังเน้นใช้รถถังในการสนับสนุนทหารราบเป็นหลัก ส่วนการต่อสู้รถถังจะเป็นหน้าที่ของยานเกราะล่ารถถัง (Tank Destroyer) ส่งผลให้เกิดการโต้เถียงกันเกี่ยวกับขีดความสามารถของรถถังรุ่นใหม่ที่สหรัฐฯจะพัฒนาขึ้นมาใช้งาน อย่างไรก็ตามแม้สหรัฐฯจะยังไม่ตกผลึกเกี่ยวกับการพัฒนารถถังรุ่นใหม่ แต่สหรัฐฯมีความจำเป็นต้องรีบส่งรถถังให้อังกฤษและสหภาพโซเวียตใช้งานตามโครงการยืม-เช่า (Lend-Lease) สหรัฐฯจึงพัฒนารถถังกลาง M3 Grant/Lee มาขัดตาทัพไปก่อน รถถังรุ่นนี้ติดอาวุธปืนใหญ่ขนาด 75 มิลลิเมตรด้านหน้าตัวรถ และปืนใหญ่ขนาด 37 มิลลิเมตรบนป้อมปืน แม้รถถังรุ่นนี้จะหุ้มเกราะหนาและมีอำนาจการยิงสูงกว่ารถถังเยอรมันส่วนใหญ่ในขณะนั้น แต่ก็มีรูปร่างสูง ยากต่อการซ่อนพราง ถูกตรวจพบได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีความซับซ้อน ต้องการการบำรุงรักษามาก จึงไม่เป็นที่นิยม ทหารโซเวียตถึงขนาดเรียกรถถังรุ่นนี้ว่า “สุสานสำหรับพี่น้องทั้ง 7” (Grave for Seven Brothers มาจากจำนวนพลประจำรถของรถถัง M3)

สหรัฐฯนำประสบการณ์จากรถถัง M3 มาใช้ในการพัฒนารถถัง Sherman มีการเปิดตัวรถถังต้นแบบ T6 ครั้งแรกในเดือนกันยายน ค.ศ.1941 ก่อนจะเข้าสู่สายการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1942 รถถัง Sherman ใช้พลประจำรถ 5 นาย ประกอบด้วย ผบ.รถถัง พลยิง พลบรรจุ พลขับ และผู้ช่วยพลขับ มีน้ำหนัก 30.3 ตัน ติดอาวุธปืนใหญ่ขนาด 75 มิลลิเมตร, ปืนกล M1919 ขนาด7.62 มิลลิเมตร 2 กระบอก กระบอกหนึ่งเป็นปืนกลร่วมแกน ส่วนอีกกระบอกหนึ่งติดอยู่ด้านหน้าตัวรถ นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งปืนกลหนัก M2HB ขนาด 12.7 มิลลิเมตร บนหลังคาป้อมปืนได้อีก 1 กระบอก ระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์เบนซิน มีความเร็วสูงสุด 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ 193 กิโลเมตร รถถัง M4 Sherman ถูกออกแบบให้ผลิตและบำรุงรักษาได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะต้องลำเลียงจากโรงงานในสหรัฐฯส่งไปรบในพื้นที่ห่างไกล

ภาพรถถัง M4 Sherman ที่สหรัฐฯส่งให้อังกฤษในโครงการยืม-เช่า มีการติดตั้งปืนกลด้านหน้าตัวรถเพิ่มเติม ตั้งแสดงที่พิพิธภัณฑ์รถถังโบวิงตัน
(Max Smith/ Wikimedia Commons/ Public Domain)

รถถัง Sherman เข้าสู่สนามรบครั้งแรกระหว่างการสู้รบที่เอล อลาเมนครั้งที่ 2 (Second Battle of El Alamein) ในแอฟริกาเหนือ ในเดือนตุลาคม ค.ศ.1942 โดยกองทัพที่ 8 ของอังกฤษ และต่อมาก็ถูกใช้โดยฝ่ายสัมพันธมิตรในสมรภูมิต่างๆทั้งในอิตาลี ยุโรปตะวันตก และในแปซิฟิก รถถัง Sherman บางส่วนยังถูกส่งให้กองทัพโซเวียตใช้งานตามโครงการยืม-เช่าด้วย

เมื่อเปรียบเทียบกับรถถังเยอรมัน รถถัง Sherman รุ่นปกติมีขีดความสามารถอยู่ในระดับเดียวกับรถถัง Panzer IV แต่ด้อยกว่ารถถัง Tiger I และ Panther รถถัง Tiger I ของเยอรมันสามารถเจาะเกราะรถถัง Sherman ได้จากระยะไกล ในขณะที่รถถังสหรัฐฯต้องยิงใส่รถถัง Tiger I ในระยะประชิด หรือยิงจากด้านข้างและด้านหลังจึงจะเจาะเกราะของรถถัง Tiger I ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะรถถัง Sherman เป็นรถถังกลางที่ออกแบบมาสำหรับสนับสนุนทหารราบเป็นหลัก อย่างไรก็ตามป้อมปืนของรถถัง Sherman สามารถรองรับปืนขนาดใหญ่ขึ้นได้ ภายหลังสหรัฐฯจึงอัพเกรดปืนใหญ่ของรถถัง Sherman เป็นขนาด 76 มิลลิเมตร ลำกล้องยาว เช่นในรุ่น M4A3E8 หรือ “Easy Eight” ขณะที่อังกฤษก็ได้พัฒนารถถัง Sherman Firefly ติดปืนใหญ่ต่อสู้รถถังขนาด 17 ปอนด์ สามารถเจาะเกราะรถถังเยอรมันรวมทั้ง Tiger I และ Panther ได้จากระยะไกล ช่วยให้หน่วยยานเกราะของฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถต่อกรกับหน่วยยานเกราะเยอรมันได้อย่างสูสี

ภาพรถถัง M4A3E8 ติดปืนใหญ่ขนาด 76 มิลลิเมตร ตั้งแสดงที่ Patton Museum of Cavalry and Armor
(Yellowute/ Wikimedia Commons/ Public Domain)

รถถัง Sherman เป็นรถถังอเนกประสงค์ นอกจากการสนับสนุนทหารราบและต่อสู้รถถังแล้ว รถถังรุ่นนี้ยังถูกดัดแปลงใช้ในภารกิจต่างๆเช่น รถถังพ่นไฟ Sherman Crocodile, รถถังติดจรวดหลายลำกล้อง Sherman Callilope, รถถังสะเทินน้ำสะเทินบก Sherman DD, รถถังเคลียร์ทุ่นระเบิด Sherman Crab เป็นต้น

หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง กองทัพสหรัฐฯยังคงใช้งานรถถัง Sherman ต่อไปจนถึงช่วงสงครามเกาหลี (Korean War) ก่อนจะปลดประจำการในปี ค.ศ.1957 แต่ประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯหลายประเทศยังคงใช้งานรถถังรุ่นนี้ต่อไปอีกหลายปี โดยเฉพาะอิสราเอลซึ่งใช้รถถัง Sherman ในการสู้รบกับชาติอาหรับตั้งแต่ช่วงการก่อตั้งประเทศในปี ค.ศ.1948 ไปจนถึงช่วงยุค 80 ร่วมกับรถถัง Centurion และ M48 Patton

สวัสดี

18.10.2021

แสดงความคิดเห็น