(Doomych/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
หลังตุรกีจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากรัสเซีย ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งกับสหรัฐฯ และสหรัฐฯได้ขับไล่ตุรกีออกจากโครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 พร้อมกับตั้งเงื่อนไขว่าจะไม่ขาย F-35 และระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot ให้ตุรกี จนกว่าตุรกีจะยกเลิกดีล S-400 ก่อน ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากฝั่งตุรกีออกมาอีกกแล้วครับ รอบนี้เกี่ยวข้องกับการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16 ของสหรัฐฯ กับเครื่องบินขับไล่ Su-35 และ Su-57 ของรัสเซีย
เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา มีข่าวจากสื่อ Daily Sabah รายงานว่าประธานาธิบดีแอร์โดอัน (Recep Tayyip Erdogan) ได้หารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ของรัสเซียที่เมืองโซชิ (Sochi) เกี่ยวกับการเพิ่มความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของตุรกีและรัสเซีย ในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่และเรือดำน้ำ
แม้การที่แอร์โดอันหารือกับปูตินเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเครื่องบินขับไล่ จะส่งผลให้หลายฝ่ายเชื่อว่าตุรกีจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Su-35 หรือ Su-57 จากรัสเซีย รวมถึงร่วมมือกับรัสเซียในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้า TF-X ของตุรกีเอง แต่ทว่าในช่วงเวลาใกล้เคียงกันก็มีข่าวในสื่อ Airforce Technology อ้างอิงแหล่งข่าวของ Reuters รายงานว่าตุรกีได้ขอซื้อเครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70 จำนวน 40 ลำจากสหรัฐฯ พร้อมอุปกรณ์สำหรับอัพเกรด F-16 ที่ตุรกีมีอยู่แล้วจำนวน 80 ชุดด้วย โฆษกของประธานาธิบดีแอร์โดอันก็ออกมายืนยันว่าตุรกีกำลังพิจารณาจัดหา F-16 จากสหรัฐฯจริง ตามรายงานของสื่อ Ahval
เมื่อประเด็นนี้เริ่มกลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมา ทั้งสหรัฐฯและตุรกีซึ่งที่ผ่านมาแสดงท่าทีขึงขังตอบโต้กันไปมาตลอด ก็รีบออกมาให้ข่าวว่าอีกฝ่ายเป็นคนเสนอดีลนี้ขึ้นมาแล้ว สื่อ Defense News รายงานว่าเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีแอร์โดอันอ้างว่าสหรัฐฯเป็นฝ่ายเสนอขายเครื่องบินขับไล่ F-16 ให้ตุรกีเอง เพื่อชดเชยที่ขับไล่ตุรกีออกจากโครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 แต่หลังจากนั้นก็มีข่าวจากสื่อ Bloomberg โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯออกมาปฏิเสธว่าสหรัฐฯไม่ได้เป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอให้ตุรกี
ขณะที่ทั้งรัฐบาลสหรัฐฯและตุรกีต่างปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายเสนอขายหรือขอซื้อเครื่องบินขับไล่ F-16 ก่อน ซึ่งไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะเป็นการรักษาหน้าในการเมืองระหว่างประเทศเฉยๆ ก็มีข่าวจากสื่อ TASS รายงานว่านายอิสมาอิล เดมีร์ (Ismail Demir) ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของตุรกี ออกมาขู่สหรัฐฯออกสื่อเลยว่าถ้าสหรัฐฯไม่อนุมัติการขายเครื่องบินขับไล่ F-16 ให้ตุรกี หลังจากไล่ตุรกีออกจากโครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 แล้ว ตุรกีก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องจัดหาเครื่องบินขับไล่ Su-35 และ Su-57 จากรัสเซีย
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ตุรกีกำลังแบล็คเมล์ให้สหรัฐฯขายเครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70 รวมถึงอุปกรณ์สำหรับอัพเกรด F-16 ที่ตุรกีมีอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพอากาศตุรกี ขัดตาทัพรอจนกว่าเครื่องบินขับไล่ TF-X จะพัฒนาเสร็จ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายปี ตุรกีไม่มีทางเลือกอื่นมากนักหลังถูกขับไล่ออกจากโครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 จะอยู่เฉยๆก็ไม่ได้เพราะ F-16 ที่มีก็เก่าลงทุกวัน อะไหล่ที่สำรองไว้ก็ร่อยหรอลง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านก็มีการเสริมกำลังรบต่อเนื่อง เช่นกรีซจัดหาเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale จากฝรั่งเศส ถ้าตุรกีไม่สามารถจัดหาเครื่องบินขับไล่จากสหรัฐฯได้ ก็ต้องซื้อของรัสเซีย ซึ่งรัสเซียก็พยายามขายเครื่องบินขับไล่ Su-35 และ Su-57 ให้ตุรกีมาหลายปีแล้ว แต่ตุรกีก็พยายามหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งกับสหรัฐฯและ NATO รุนแรงมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ตุรกีก็จะเลือกจัดหาเครื่องบินขับไล่จากสหรัฐฯก่อน ปัญหาคือสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศช่วงที่ผ่านมาไม่เอื้อต่อการที่ตุรกีจะจัดหา F-16 จากสหรัฐฯได้เลย ต่อให้รัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติการขาย F-16 ให้ตุรกี ก็อาจเจออุปสรรคในสภาคองเกรสอยู่ดี และถ้าสถานการณ์บานปลายออกไป ตุรกีก็จะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจัดหาเครื่องบินขับไล่จากรัสเซีย ประเด็นนี้จึงน่าติดตามมาก
สวัสดี
19.10.2021
