สื่อ The Economic Times รายงานว่ากระทรวงกลาโหมอินเดีย ออกมาแจ้งเตือนกรมโยธาธิการกลางของอินเดีย (Central Public Works Department – CPWD) เกี่ยวกับความล่าช้าในการพัฒนากระสุนเจาะเกราะ APFSDS ขนาด 125 มิลลิเมตรรุ่นใหม่ สำหรับรถถัง T-72M1 Ajeya และ T-90S Bhishma ของกองทัพอินเดีย โดยได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ชื่อโครงการ Mango Project ซึ่งทาง CPWD เป็นผู้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2017 – 2018 เดิมมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ.2020 และกระทรวงกลาโหมอินเดียตั้งใจจะจัดแสดงกระสุนรุ่นใหม่นี้ระหว่างงานเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี การประกาศเอกราชของอินเดียเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.2021 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้การพัฒนากระสุนรุ่นใหม่ดังกล่าวก็ยังไม่แล้วเสร็จ และกำหนดการก็ถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ส่งผลให้กระทรวงกลาโหมอินเดียไม่พอใจมาก
นอกเหนือจากเรื่องหน้าตาของกระทรวงกลาโหมอินเดียที่ไม่สามารถจัดแสดงกระสุนเจาะเกราะ APFSDS รุ่นใหม่ที่อินเดียพัฒนาเองได้ทันงานฉลองวันเอกราชแล้ว โครงการนี้ยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยรถถังอินเดียด้วยครับ เท่าที่ผมมีข้อมูล ดูเหมือนว่ารถถังอินเดียทั้ง T-72M1 Ajeya และ T-90S Bhishma ยังใช้ปืนใหญ่ขนาด 125 มิลลิเมตรรุ่น 2A46M รุ่นเก่าอยู่ หมายความว่ารถถังอินเดียยังไม่สามารถใช้กระสุนเจาะเกราะ APFSDS รุ่นใหม่ของรัสเซียอย่าง 3BM59 Svinets-1 และ 3BM60 Svinets-2 เพราะกระสุนสองรุ่นนี้มีความยาวมากกว่ากระสุนปืนใหญ่ขนาด 125 มิลลิเมตรรุ่นอื่นๆ ต้องใช้กับระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติรุ่นใหม่ของปืนใหญ่ขนาด 125 มิลลิเมตรรุ่น 2A46M-5 ที่มีใช้งานในรถถังรุ่นใหม่ๆของรัสเซียอย่าง T-90M, T-80BVM และ T-72B3 เท่านั้น เท่ากับว่ารถถังอินเดียยังต้องใช้กระสุนเจาะเกราะ APFSDS รุ่นเก่าจากยุคโซเวียตคือ 3BM42 Mango อยู่ ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของชื่อโครงการ Mango Project ครับ ถ้าเป็นจริงตามนี้แสดงว่ารถถังอินเดียมีจุดอ่อนเรื่องอำนาจการยิง เพราะกระสุน Mango ปัจจุบันเจาะเกราะด้านหน้าของรถถังรุ่นใหม่ๆไม่เข้าแล้ว ความจริงแค่เกราะด้านหน้าของรถถัง T-72B ก็เต็มกลืนแล้ว ทางเลือกของอินเดียคือต้องอัพเกรดรถถังเปลี่ยนไปใช้ปืนใหญ่รุ่น 2A46M-5 ไม่ก็ต้องหาทางพัฒนากระสุนรุ่นใหม่ที่มีขีดความสามารถสูงขึ้นแต่ยังใช้งานร่วมกับปืนใหญ่ 2A46M รุ่นเก่าได้ ในส่วนของรถถัง T-90S Bhishma ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะในอนาคตอินเดียก็น่าจะอัพเกรดเป็น T-90MS Tagil อยู่แล้ว ปัญหาน่าจะอยู่ที่รถถัง T-72M1 Ajeya มากกว่า เพราะรถถังรุ่นนี้ปัจจุบันถือว่าเก่ามากแล้ว ไม่คุ้มค่าที่จะอัพเกรด แต่กองทัพอินเดียยังมีรถถังรุ่นนี้ประจำการอยู่มากกว่า 1,900 คัน กว่าจะจัดหารถถังรุ่นใหม่ในโครงการ Future Ready Combat Vehicle (FRCV) ซึ่งข้อมูลบางแหล่งระบุว่าอินเดียจะเลือกรถถัง T-14 Armata จากรัสเซีย มาทดแทนได้หมดคงใช้เวลาอีกนานและปัจจุบันโครงการก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าที่ควร ดังนั้นการพัฒนากระสุนเจาะเกราะ APFSDS รุ่นใหม่ ที่รถถัง T-72M1 Ajeya สามารถใช้งานได้ด้วยโดยไม่ต้องเปลี่ยนปืนใหญ่ใหม่จึงมีความจำเป็นครับ
สวัสดี
21.10.2021
