(U.S. Air Force photo by Staff Sgt. Cherie A. Thurlby)
สื่อ Reuters รายงานว่าสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจำนวน 11 คน ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) และนายแอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เรียกร้องไม่ให้ขายเครื่องบินขับไล่ F-16V Block 70 จำนวน 40 ลำและชุดอัพเกรด F-16 อีก 80 ชุดให้ตุรกี ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ส.ส. กลุ่มนี้บอกว่าตุรกียังไม่ยอมยกเลิกการจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากรัสเซีย เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ สหรัฐฯจึงไม่สมควรขายเครื่องบินรบหรือเทคโนโลยีทางทหารระดับสูงให้ตุรกี พวกเขามั่นใจว่าสภาคองเกรสคงจะไม่อนุมัติดีลนี้แน่นอน
ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสพยายามขัดขวางไม่ให้ไบเดนขายเครื่องบินขับไล่ F-16V ให้ตุรกี ก็มีข่าวจากสื่อ Hurriyet รายงานว่านายเมฟเลิต ชาวูโชลู (Mevlüt Çavuşoğlu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของตุรกี ประกาศว่าถ้าสหรัฐฯไม่ยอมส่งมอบเครื่องบินขับไล่ F-35 ให้ตุรกี ทั้งที่ตุรกีลงทุนเงินกับโครงการนี้ไปแล้วกว่า 1,400 ล้านเหรียญ (ประมาณ 46,000 ล้านบาท) สหรัฐฯก็ควรคืนเงินให้ตุรกี ไม่ก็ส่งสินค้าอย่างอื่นมาทดแทน (ในกรณีนี้ก็คือ F-16V นั่นเอง – ผู้เขียน) ไม่งั้นตุรกีก็จะพิจารณาจัดหาเครื่องบินขับไล่จากแหล่งอื่น รวมถึง Su-35 และ Su-57 จากรัสเซีย
ประเด็นที่ตุรกีจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16V จากสหรัฐฯถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะนี่แทบจะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่สหรัฐฯจะรักษาความร่วมมือทางทหารกับตุรกีได้ หลังตุรกีถูกขับออกจากโครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 เพราะจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากรัสเซีย ซึ่งที่ตุรกีต้องจัดหา S-400 จากรัสเซียก็เกิดจากสหรัฐฯไม่ยอมขายระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot ให้ตุรกีตามเงื่อนไขที่ตุรกีต้องการ เรียกว่าเป็นปัญหางูกินหาง
ปัจจุบันเครื่องบินขับไล่หลักของตุรกีคือ F-16C/D จำนวน 245 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4 ใช้งานมานานพอสมควรแล้ว ตุรกีมีแผนจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 คือ F-35 มาเสริมทัพ ระหว่างรอโครงการเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 ของตัวเองคือ TF-X พัฒนาเสร็จ แต่ตอนนี้ตุรกีกลับถูกขับออกจากโครงการ F-35 ขณะที่โครงการ TF-X ก็มีอุปสรรคมากมาย กว่าจะพัฒนาเสร็จสมบูรณ์อาจต้องใช้เวลาถึงช่วงทศวรรษ 2030 เท่ากับว่ากองทัพอากาศตุรกีอาจจะต้องใช้ F-16C/D ไปอีกนาน ในขณะที่กองทัพอากาศประเทศโดยรอบมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเช่นอิสราเอลได้รับมอบ F-35 แล้ว อียิปต์จัดหาเครื่องบินขับไล่ Rafale จากฝรั่งเศสและ Su-35 จากรัสเซีย ขณะที่กรีซก็กำลังจัดหาเครื่องบินขับไล่ Rafale จากฝรั่งเศส รวมถึงมีแผนจะจัดหา F-35 จากสหรัฐฯด้วย เป็นต้น นโยบายต่างประเทศของตุรกีในช่วงที่ผ่านมา ยังส่งผลให้ตุรกีมีความขัดแย้งกับประเทศโดยรอบแทบทุกประเทศทั้งกรีซ อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฯลฯ ถ้าตุรกีไม่รีบจัดหาเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่มาขัดตาทัพแทน F-35 ก็จะส่งผลกระทบต่ออำนาจต่อดุลอำนาจทางอากาศมาก ด้วยเหตุนี้ F-16V จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับตุรกี เพราะ F-16V มีขีดความสามารถพอจะถ่วงดุลกับเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 ได้ และตุรกีมีประสบการณ์กับเครื่องบินขับไล่ตระกูล F-16 อยู่แล้ว การจัดหา F-16V ยังเป็นการรื้อฟื้นความร่วมมือทางทหารระหว่างสหรัฐฯและตุรกีด้วย แต่ถ้าสุดท้ายสภาคองเกรสไม่อนุมัติให้ขาย F-16V ให้ตุรกี ตุรกีก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจัดหาเครื่องบินขับไล่จากแหล่งอื่น เพื่อมาถ่วงดุลกับประเทศรอบข้างโดยเร็วที่สุด ในกรณีนี้รัสเซียก็รอขายเครื่องบินขับไล่ Su-35 และ Su-57 ให้ตุรกีอยู่แล้ว ซึ่งถ้าสุดท้ายตุรกีจำเป็นต้องจัดหาเครื่องบินขับไล่รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 เพิ่มเติมจากรัสเซีย ก็คงไม่มีโอกาสฟื้นฟูความร่วมมือทางทหารกับสหรัฐฯแล้ว
สวัสดี
29.10.2021
