(KrisfromGermany/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
ปืนกล MG 3 ผลิตโดยบริษัท Rheinmetall ของเยอรมนี เป็นหนึ่งในปืนกลที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานเกือบ 60 ปี มีพื้นฐานมาจากปืนกล MG 42 สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ปืนกล MG 42 ของเยอรมนีเป็นหนึ่งในอาวุธที่มีชื่อเสียงที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นปืนกลอเนกประสงค์ที่มีประสิทธิภาพสูง มีอัตราการยิงสูงสุดถึง 1,200 นัดต่อนาที มีเสียงน่ากลัวเป็นเอกลักษณ์จนได้ฉายาว่าเลื่อยวงเดือนของฮิตเลอร์ (Hitler’s buzzsaw) สามารถข่มขวัญข้าศึกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสายการผลิตเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน จนอาจกล่าวได้ว่าปืนกล MG 42 เป็นหนึ่งในปืนกลที่ดีที่สุดในโลก หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง หลายประเทศได้นำเทคโนโลยีจากปืนกล MG 42 ไปใช้ในการพัฒนาปืนกลรุ่นใหม่ของตัวเองเช่นปืนกล M60 ของสหรัฐฯ FN MAG ของเบลเยียม และ MG 51 ของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น
เมื่อตะวันตกอนุญาตให้เยอรมนีตะวันตกติดอาวุธได้อีกครั้ง เพื่อรับมือภัยคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์ในสงครามเย็น เยอรมนีตะวันตกก็ตัดสินใจเปิดสายการผลิตปืนกล MG 42 ขึ้นมาอีกครั้ง โดยเปลี่ยนขนาดลำกล้องไปใช้กระสุนขนาด 7.62 x 51 มิลลิเมตรตามมาตรฐาน NATO แทนที่กระสุนขนาด 7.92 x 57 มิลลิเมตร Mauser จากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ใช้ชื่อว่าปืนกล MG 1 เข้าประจำการในปี ค.ศ.1958 นอกจากนี้เยอรมนีตะวันตกยังได้นำปืนกล MG 42 จากในคลังมาเปลี่ยนลำกล้องใหม่ใช้ร่วมกันด้วย ใช้ชื่อว่าปืนกล MG 2 หลังจากกองทัพเยอรมนีตะวันตกใช้งานปืนกลสองรุ่นนี้ไปได้ระยะหนึ่งก็มีการพัฒนาต่อยอดเป็นปืนกล MG 3 เข้าประจำการในปี ค.ศ.1968
ปืนกล MG 3 มีน้ำหนัก 10.5 กิโลกรัม (27.5 กิโลกรัมเมื่อรวมน้ำหนักขาตั้งสามขาด้วย) มีความยาว 1,225 มิลลิเมตร ความยาวลำกล้อง 565 มิลลิเมตร ใช้กระสุนขนาด 7.62 x 51 มิลลิเมตร NATO อัตราการยิง 1,200 นัดต่อนาที ระยะยิงหวังผล 200 – 1,200 เมตรขึ้นกับการปรับศูนย์เล็ง มีสายกระสุนให้เลือกใช้หลายขนาดได้แก่ขนาด 50, 100, 120 และ 250 นัด แม้ปืนกล MG 3 จะมีอัตราการยิงสูง แต่ทหารเยอรมันจะได้รับการฝึกให้ทำการยิงเป็นชุดสั้นๆมากกว่า (3 – 5 นัดเมื่อติดตั้งบนขาทรายและ 20 – 30 นัดเมื่อติดตั้งบนขาตั้งสามขา) จะทำการยิงต่อเนื่องเฉพาะเวลาจำเป็นจริงๆเท่านั้น และหลังจากทำการยิงไปได้ประมาณ 150 นัด ทหารเยอรมันก็จะเปลี่ยนลำกล้องใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ลำกล้องที่มีความร้อนสูงเสื่อมสภาพเร็วเกินไป พลประจำปืนที่ทำหน้าที่เปลี่ยนลำกล้องจะได้รับถุงมือหรือผ้าชนิดพิเศษเพื่อป้องกันความร้อน
ปืนกล MG 3 ได้รับความนิยมแพร่หลาย นอกจากบริษัท Rheinmetall แล้ว ปืนกลรุ่นนี้ยังถูกผลิตโดยบริษัท Heckler & Koch ด้วย และหลายประเทศเช่นกรีซ ปากีสถาน ตุรกี ฯลฯ ก็ได้ซื้อสิทธิบัตรปืนกล MG 3 ไปตั้งสายการผลิตภายในประเทศเช่นกัน
ปัจจุบันปืนกล MG 3 มีประจำการในกองทัพประเทศต่างๆมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกเช่น เยอรมนี อาร์เจนตินา กรีซ บราซิล ฟินแลนด์ อินโดนีเซีย ปากีสถาน สเปน ตุรกี ฯลฯ กองทัพไทยก็มีปืนกล MG 3 ใช้งานอยู่เช่นกัน โดยติดตั้งอยู่บนรถหุ้มเกราะล้อยาง Cadillac Gage Commando V-150
สวัสดี
11.11.2021
