เรือฟริเกตชั้น Admiral Grigorovich แห่งกองเรือทะเลดำของรัสเซีย

ภาพเรือฟริเกต Admiral Makarov ของรัสเซีย ในปี ค.ศ.2018
(Alexander Patrikeev/ Wikimedia Commons/ Public Domain)

เรือฟริเกตชั้น Admiral Grigorovich Project 11356P/M มีพื้นฐานมาจากเรือฟริเกตชั้น Talwar Project 11356 ที่รัสเซียขายให้กองทัพเรืออินเดีย ต่อที่อู่ต่อเรือ Yantar ในคาลินินกราด รัสเซ็นเซ็นสัญญาจัดหาเรือฟริเกตชุดนี้จำนวน 6 ลำระหว่างปี ค.ศ.2010 – 2011 สำหรับกองเรือทะเลดำ (Black Sea Fleet) เนื่องจากความล่าช้าในการต่อเรือฟริเกตชั้น Admiral Gorshkov อย่างไรก็ตามแม้รัสเซียมีแผนจะต่อเรือฟริเกตชั้น Admiral Grigorovich จำนวน 6 ลำ แต่ได้รับมอบเข้าประจำการจริงๆเพียง 3 ลำเท่านั้น เนื่องจากเรือฟริเกตชุดนี้ใช้เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ผลิตในยูเครน เมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ยูเครนไม่ขายเครื่องยนต์สำหรับเรืออีก 3 ลำให้รัสเซีย สุดท้ายรัสเซียจึงตัดสินใจขายเรือที่ยังต่อไม่เสร็จ 2 ลำให้อินเดีย ส่วนอีก 1 ลำกำลังหาลูกค้าอยู่

เรือฟริเกตชั้น Admiral Grigorovich ใช้ลูกเรือประมาณ 200 นาย มีระวางขับน้ำ 3,850 ตัน มีขนาดยาว 124.8 เมตร กว้าง 15.2 เมตร มีความเร็วสูงสุด 30 นอต ระยะปฏิบัติการ 9,000 กิโลเมตรที่ความเร็ว 14 นอต ติดอาวุธปืนเรือ A-190 ขนาด 100 มิลลิเมตร, ระบบป้องกันระยะประชิด (CIWS) AK-630 หรือ Kashtan จำนวน 2 แท่น, ท่อยิงแนวดิ่งสำหรับจรวดร่อน Kalibr, P-800 Oniks หรือ Tsirkon จำนวน 8 ท่อยิง (ลำที่ขายให้อินเดียใช้จรวดร่อน BrahMos), ท่อยิงแนวดิ่งสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศ Shtil-1 (Buk รุ่นติดตั้งบนเรือรบ) 24 ท่อยิง, ท่อยิงตอร์ปิโดขนาด 533 มิลลิเมตร และแท่นยิงจรวดปราบเรือดำน้ำ RBU-6000 จำนวน 1 แท่น เรือฟริเกตชั้น Admiral Grigorovich สามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ Ka-28 หรือ Ka-31 ได้ 1 ลำ

เรือฟริเกตลำแรกของชั้นชื่อ Admiral Grigorovich ตั้งชื่อตามพลเรือเอก Ivan Konstantinovich Grigorovich รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทหารเรือคนสุดท้ายของจักรวรรดิรัสเซีย (Russian Empire) ก่อนเกิดการปฏิวัติรัสเซีย (Russian Revolution) เริ่มวางกระดูกงูเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ.2010 ปล่อยลงน้ำวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.2014 และเข้าประจำการเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ.2016

เรือลำที่สองชื่อ Admiral Essen ตั้งชื่อตามพลเรือเอก Nikolai Ottovich von Essen นายทหารเรือรัสเซียสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เริ่มวางกระดูกงูเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ.2011 ปล่อยลงน้ำวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ.2014 และเข้าประจำการในวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ.2016

เรือลำที่สามชื่อ Admiral Makarov ตั้งชื่อตามพลเรือโท Stepan Osipovich Makarov นายทหารสังกัดกองเรือแปซิฟิก (Pacific Fleet) ของจักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งพลีชีพระหว่างสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (Russo-Japanese War) เริ่มวางกระดูกงูวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2012 ปล่อยลงน้ำวันที่ 2 กันยายน ค.ศ.2015 และเข้าประจำการในวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ.2017

เรืออีก 3 ลำที่เหลือได้แก่ Admiral Kornilov, Admiral Butakov และ Admiral Istomin ไม่สามารถต่อเข้าประจำการได้ตามแผน เนื่องจากยูเครนไม่ขายเครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ให้ สุดท้ายรัสเซียจึงตัดสินใจขายเรือ Admiral Butakov และ Admiral Istomin ให้อินเดีย เปลี่ยนชื่อเป็น Tushil และ Tamala ตามลำดับ โดยอินเดียจะซื้อเครื่องยนต์จากยูเครนเองโดยตรง มีกำหนดเข้าประจำการภายในปี ค.ศ.2024 ส่วนเรือลำสุดท้ายคือ Admiral Kornilov ยังไม่มีลูกค้า ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่ารัสเซียจะเสนอขายเรือลำนี้ให้ไทย ก่อนจะเงียบหายไป

สวัสดี

24.11.2021

คลิปเรือฟริเกต Admiral Grigorovich ระหว่างปฏิบัติภารกิจนอกชายฝั่งซีเรีย เดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2016
คลิปเรือฟริเกต Admiral Grigorovich ยิงจรวดร่อน Kalibr ถล่มผู้ก่อการร้ายในซีเรีย เดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2016
คลิปเรือฟริเกต Admiral Grigorovich ทดสอบยิงระบบป้องกันภัยทางอากาศ Shtil-1 เดือนพฤษภาคม ค.ศ.2021

แสดงความคิดเห็น