เบลารุสยอมรับไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

ภาพปราสาทรังนกนางแอ่น (Swallow’s Nest) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในไครเมีย
(ภาพโดย irinariviera จาก Pixabay)

มีข่าวจาก The Moscow Times ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก (Alexander Lukashenko) ของเบลารุสให้สัมภาษณ์สื่อ RIA Novosti ยอมรับว่าไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียหลังการลงประชามติในปี ค.ศ.2014 และเขามีแผนจะเดินทางเยือนไครเมีย พร้อมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ของรัสเซีย ลูคาเชนโกยังเสนอให้รัสเซียติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในเบลารุส ถ้า NATO ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในยุโรปตะวันออก

หลังลูคาเชนโกประกาศว่าไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว สื่อ TASS ก็รายงานว่านายอังเดรย์ ซาวินึกฮ์ (Andrei Savinyh) สมาชิกรัฐสภาของเบลารุส เปิดเผยในช่องยูทูป Solovyov Live ว่าเบลารุสถือว่าไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมานานแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ประกาศออกสื่ออย่างเป็นทางการเท่านั้น

การที่เบลารุสประกาศยอมรับว่าไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการเปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศครั้งสำคัญของเบลารุส เพราะก่อนหน้านี้นับตั้งแต่เกิดวิกฤตในยูเครน ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการที่สหรัฐฯและ EU สนับสนุนกลุ่มนีโอนาซีให้โค่นล้มรัฐบาลของนายวิกเตอร์ ยานูโควิช (Viktor Yanukovych) ที่มาจากการเลือกตั้ง เบลารุสก็วางตัวเป็นกลางระหว่างรัสเซียและยูเครนมาโดยตลอด ตามนโยบายของนายลูคาเชนโกในขณะที่ต้องการถ่วงดุลระหว่างรัสเซียและตะวันตก ส่งผลให้เบลารุสถูกใช้เป็นสถานที่เจรจาทำข้อตกลงหยุดยิงในดอนบาสที่เรียกว่าข้อตกลง Minsk ด้วย แต่เมื่อเบลารุสยอมรับว่าไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เท่ากับว่าเบลารุสเปลี่ยนท่าทีไปสนับสนุนรัสเซียเต็มที่ ไม่ได้วางตัวเป็นกลางอีกต่อไป ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะปัจจุบันเบลารุสไม่สามารถดำเนินนโยบายถ่วงดุลระหว่างตะวันตกกับรัสเซียได้แล้ว ในเมื่อตะวันตกสนับสนุนฝ่ายค้านเบลารุสให้โค่นล้มรัฐบาลเบลารุส ลูคาเชนโกก็จำเป็นต้องหันไปพึ่งพารัสเซียเต็มตัว ทางด้านรัสเซียก็ได้กระชับสัมพันธ์กับเบลารุสมากขึ้น รวมถึงสามารถกดดันยูเครนจากทิศเหนือได้อีกทางหนึ่ง

สวัสดี

01.12.2021

แสดงความคิดเห็น