(Vitaly Kuzmin/ CC BY-SA 4.0)
สื่อ Izvestia รายงานว่ารัสเซียจะทดแทนระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300PS รุ่นเก่าในแคว้นรัสตอฟ (Rostov) และไครเมีย (Crimea) ด้วย S-300PM2 ใช้งานควบคู่กับ S-400 และ S-350 Vityaz
S-300PM2 พัฒนาขึ้นช่วงปลายยุค 90 เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยไกลรุ่นก่อนหน้าของ S-400 จรวดมีระยะยิงไกลสุด 250 กิโลเมตร มีประสิทธิภาพสูงกว่า S-300PS จากยุคโซเวียตซึ่งมีระยะยิงเพียง 75 กิโลเมตร เข้าประจำการตั้งแต่ช่วงต้นยุค 80 มาก
การที่รัสเซียทดแทน S-300PS บริเวณชายแดนติดกับยูเครนด้วย S-300PM2 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้นไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะช่วงที่ผ่านมายูเครนได้พัฒนาจรวดและขีปนาวุธรุ่นใหม่หลายรุ่นเช่น ขีปนาวุธพิสัยใกล้ Grom, จรวดร่อนต่อต้านเรือรบ Neptune เป็นต้น นอกจากนี้ยูเครนยังได้จัดหาโดรน Bayraktar TB2 จากตุรกีด้วย อาเซอร์ไบจานเคยใช้โดรนรุ่นนี้จัดการ S-300PS ของอาร์เมเนียระหว่างการสู้รบในพื้นที่พิพาทนาร์กอโน-คาราบัค (Nagorno-Karabakh) มาแล้ว การติดตั้ง S-300PM2 แทนที่ S-300PS นอกจากจะช่วยให้รัสเซียรับมือยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่ๆของยูเครนเหล่านี้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระยะยิงที่ไกลขึ้นยังช่วยให้รัสเซียสามารถป้องกันภัยทางอากาศให้กองกำลังภาคพื้นดิน ในกรณีที่รัสเซียต้องข้ามชายแดนเข้าแทรกแซงในดอนบาสได้ลึกขึ้นด้วย
สวัสดี
14.12.2021
