
(Nickel nitride/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี ค.ศ.1991 กองทัพรัสเซียได้รับยานเกราะของกองทัพโซเวียตเดิมตกทอดมาจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือรถรบทหารราบ BMP-1 ซึ่งเข้าประจำการในกองทัพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ.1966 ถูกผลิตออกมามากกว่า 20,000 คัน มีการส่งออกให้ประเทศพันธมิตรของโซเวียตในยุโรปตะวันออก แอฟริกา และตะวันออกกลางใช้งานอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตามเมื่อถึงช่วงทศวรรษ 1990 รถรบทหารราบ BMP-1 ก็ถือว่าล้าสมัยแล้ว กองทัพรัสเซียมีรถรบทหารราบรุ่นใหม่กว่าอย่าง BMP-2 และ BMP-3 ให้เลือกใช้งาน รถรบทหารราบ BMP-1 จึงค่อยๆถูกลดความสำคัญลงและทยอยถูกเก็บเข้ากรุ ปัจจุบันกองทัพรัสเซียยังมีรถรบทหารราบ BMP-1 ประจำการอยู่ประมาณ 300 – 500 คันเท่านั้น และมีเก็บสำรองไว้ในคลังมากกว่า 7,000 คัน (ในจำนวนนี้ประมาณ 1,000 คันพึ่งปลดประจำการไปในช่วงทศวรรษ 2010 นี้เอง)
แม้รถรบทหารราบ BMP-1 จะไม่ได้เป็นกำลังรบหลักของรัสเซียแล้ว แต่เมื่อทหารรัสเซียบางหน่วยยังใช้งานยานเกราะรุ่นนี้อยู่ ประกอบกับรถรบทหารราบ BMP-1 ยังคงถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย มีประจำการในกองทัพประเทศต่างๆมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกเช่น อาเซอร์ไบจาน อาร์เมเนีย แอลจีเรีย อังโกลา อียิปต์ อินเดีย อิหร่าน อิรัก เวียดนาม กัมพูชา มองโกเลีย สโลวาเกีย ซูดาน ยูเครน เติร์กเมนิสถาน ฯลฯ หลายประเทศเป็นลูกค้าอาวุธรายใหญ่ของรัสเซีย รัสเซียจึงเกิดแนวคิดที่จะอัพเกรดรถรบทหารราบ BMP-1 ให้ทันสมัยขึ้น นอกจากเป็นการเพิ่มขีดความสามารถหน่วยทหารของรัสเซียเองแล้ว ยังเพื่อเสนอแพคเกจอัพเกรดรถรบทหารราบ BMP-1 ของลูกค้าต่างประเทศด้วย
รถรบทหารราบ BMP-1AM Basurmanin เป็น BMP-1 รุ่นอัพเกรดล่าสุดของรัสเซีย พัฒนาโดยบริษัท Uralvagonzavod (UVZ) ผู้ผลิตยานเกราะรายใหญ่ของรัสเซีย เปิดตัวครั้งแรกในงานแสดงอาวุธ Army-2018 เกิดจากการนำป้อมปืนใหญ่อัตโนมัติขนาด 30 มิลลิเมตร แบบเดียวกับของรถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-82A มาติดตั้งบนตัวรถรบทหารราบ BMP-1 แทนที่ป้อมปืนใหญ่ขนาด 73 มิลลิเมตรเดิม

(Nickel nitride/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
รถรบทหารราบ BMP-1AM มีพลประจำรถ 3 นายได้แก่ ผบ.รถ พลขับ และพลยิง สามารถบรรทุกทหารได้ 8 นาย มีขนาดยาว 6.735 เมตร กว้าง 3.15 เมตร สูง 2.55 เมตร (สูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเนื่องจากเปลี่ยนป้อมปืน) หนัก 14.2 ตัน ติดอาวุธปืนใหญ่อัตโนมัติ 2A72 ขนาด 30 มิลลิเมตร, ปืนกลร่วมแกน PKTM ขนาด 7.62 มิลลิเมตร และจรวดต่อสู้รถถัง 9K115 Metis มีระบบตรวจการณ์ ระบบควบคุมการยิง และระบบสื่อสารที่ทันสมัยขึ้น ระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ดีเซล UTD-20S1 ขนาด 300 แรงม้า มีความเร็วสูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ 550 กิโลเมตร มีคุณสมบัติสะเทินน้ำสะเทินบก สามารถเคลื่อนที่ในน้ำด้วยความเร็ว 7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถรบทหารราบ BMP-1 ที่อัพเกรดเป็น BMP-1AM แล้ว จะมีอำนาจการยิงเทียบเท่ารถรบทหารราบ BMP-2 ปืนใหญ่อัตโนมัติขนาด 30 มิลลิเมตรยังมีอัตราการยิงและมุมยิงมากกว่าปืนใหญ่ขนาด 73 มิลลิเมตรเดิม ช่วยให้สามารถทำการรบในเมืองและแถบภูเขาได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นตัวเลือกสำหรับประเทศที่มีงบประมาณจำกัด อย่างไรก็ตามเนื่องจาก BMP-1AM ยังเน้นให้ความสำคัญกับอำนาจการยิงและความคล่องตัวในการเคลื่อนที่เป็นหลัก จึงไม่ได้มีการติดเกราะเสริมหรือระบบป้องกันตัวเพิ่มเติมแต่อย่างใด จึงยังคงมีจุดอ่อนเรื่องเกราะบาง เกราะด้านหน้าสามารถป้องกันได้เพียงปืนกลหนักขนาด 12.7 มิลลิเมตร ขณะที่เกราะด้านข้างและด้านหลังสามารถป้องกันได้เพียงกระสุนขนาด 7.62 มิลลิเมตร
สวัสดี
26.01.2022