
(Ministry of Defence of the Russian Federation – Mil.ru)
มีข่าวจากสื่อ RT และ ABC News ว่ารัสเซียพึ่งทำข้อตกลงกับเบลารุส เพิ่มความร่วมมือในการช่วยเหลือประเทศซีเรียที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม แนวทางหนึ่งที่เสนอไว้ในข้อตกลงคือเบลารุสจะส่งทหารประมาณ 200 นาย ไปร่วมปฏิบัติการในซีเรียกับรัสเซีย โดยทหารเบลารุสจะอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของรัสเซีย และรัสเซียจะเป็นฝ่ายจัดหาที่พัก เครื่องแบบ ยุทโธปกรณ์ รวมถึงสัมภาระต่างๆให้ทั้งหมด ภารกิจของทหารเบลารุสจะจำกัดอยู่ที่การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวซีเรียเท่านั้น ไม่ต้องปฏิบัติการในพื้นที่สู้รบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการส่งทหารเบลารุสไปซีเรียดังกล่าวยังเป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น ต้องรอฝั่งเบลารุสตอบรับก่อน โดยตอนนี้ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชงโก (Alexander Lukashenko) ยังสงวนท่าทีอยู่ ไม่ได้ตัดสินใจส่งทหารไปร่วมกับรัสเซียทันที บอกแต่เพียงว่าเบลารุสอาจจะส่งหน่วยแพทย์ไปซีเรียหลังการระบาดของเชื้อโควิด-19 สิ้นสุดลงแล้ว ด้านนางสเวตลานา ติฮานอฟสกายา (Svetlana Tikhanovskaya) ผู้นำฝ่ายค้านของเบลารุสซึ่งลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ก็ออกมาวิจารณ์ลูคาเชงโกว่าขายชาติ ส่งทหารเบลารุสไปซีเรียทั้งที่ขัดรัฐธรรมนูญและผลประโยชน์ของเบลารุส เพียงเพื่อตอบแทนความช่วยเหลือจากรัสเซียที่ช่วยให้เขาอยู่ในอำนาจได้ ทั้งที่ลูคาเชงโกยังไม่ได้ตัดสินใจส่งทหารเบลารุสไปซีเรียตามที่รัสเซียเสนอมาเลย
ในแง่ปฏิบัติการ รัสเซียไม่มีความจำเป็นต้องใช้ทหารเบลารุส 200 นายเลย ลำพังทหารรัสเซียก็เพียงพอต่อภารกิจในซีเรีย ไม่ว่าจะเป็นภารกิจทางทหารหรือการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวซีเรีย นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการในซีเรียเมื่อปี ค.ศ.2015 ปัจจุบันกองทัพรัฐบาลซีเรียสามารถยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศกลับมาได้แล้ว ฐานะของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด (Bashar al-Assad) มีความมั่นคง ปัญหาอยู่ที่นานาชาติยังไม่กล้ายอมรับรัฐบาลอัสซาดอย่างเป็นทางการ เพราะสหรัฐฯเป็นก้างขวางคออยู่ มีการออกกฎหมายเช่น Caesar Act ขู่คว่ำบาตรประเทศหรือธุรกิจต่างๆที่เข้าไปลงทุนในซีเรีย ส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูประเทศซีเรีย รัสเซียจึงพยายามแก้เกมด้วยการดึงประเทศพันธมิตรของรัสเซียมาร่วมปฏิบัติการในซีเรียมากขึ้น โดยให้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของรัสเซีย เพื่อให้ประเทศต่างๆมีส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือซีเรียได้โดยมีรัสเซียเป็นฉากบังหน้า รวมถึงช่วยสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลซีเรียในระดับนานาชาติมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี ค.ศ.2019 อาร์เมเนียก็เคยส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดและทีมแพทย์มาช่วยเหลือชาวซีเรียไปแล้ว ครั้งนี้รัสเซียจึงเสนอให้เบลารุสมาช่วยบ้าง แม้แนวทางนี้จะช่วยให้ประเทศต่างๆสามารถช่วยเหลือซีเรียได้โดยไม่ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตร แต่ลำพังความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การเก็บกู้วัตถุระเบิด ความช่วยเหลือด้านการแพทย์เล็กๆน้อยๆนั้นไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูซีเรียในระยะยาว เพราะการฟื้นฟูซีเรียต้องอาศัยการลงทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล และไม่สามารถอาศัยกองทัพรัสเซียเป็นฉากบังหน้าได้ ก็ต้องรอดูต่อไปว่าจะมีประเทศหรือบริษัทไหนกล้ามาช่วยซีเรียฟื้นฟูประเทศ เสี่ยงต่อการถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรบ้าง
สำหรับท่าทีของลูคาเชงโกที่ยังสงวนท่าที ไม่ตกลงส่งทหารเบลารุสไปซีเรียทันทีตามที่รัสเซียเสนอมา ส่วนตัวผมก็มองว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ถึงแม้ปัจจุบันลูคาเชงโกต้องพึ่งพารัสเซียมาก แต่เขาก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ผู้นำสูงสุดของเบลารุสอยู่ ประเด็นการส่งทหารเบลารุสไปซีเรียนี้ ลูคาเชงโกไม่ได้ประกาศเอง แต่เป็นฝ่ายรัสเซียเอาไปเปิดเผยผ่านสื่อ ถ้าลูคาเชงโกตกลงทันทีหลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็จะส่งผลให้เขาดูเหมือนเป็นหุ่นเชิดของรัสเซีย ดังนั้นจึงต้องเล่นตัวไว้ก่อน แต่ผมเชื่อว่าหลังจากนี้เบลารุสคงตกลงให้ความช่วยเหลือซีเรียไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
สวัสดี
09.02.2022