
(Россин Денис Владимирович/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
เฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-28 หรือชื่อในระบบ NATO คือ Havoc พัฒนาโดยบริษัท Mil เริ่มโครงการช่วงทศวรรษ 1970 หลังจากบริษัทพัฒนาเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-24 Hind เสร็จแล้ว โดย Mi-28 ถูกออกแบบมาใช้ในภารกิจโจมตีโดยเฉพาะ ต่างจาก Mi-24 ที่สามารถใช้บรรทุกทหารได้ด้วย ต้นแบบลำแรกของ Mi-28 ทำการบินเที่ยวแรกในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ.1982 การทดสอบเบื้องต้นเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1984 แต่ทว่าในแบบการเลือกแบบเฮลิคอปเตอร์โจมตีรุ่นใหม่ของกองทัพอากาศโซเวียต Mi-28 กลับแพ้ให้กับเฮลิคอปเตอร์โจมตี Ka-50 Black Shark ของบริษัท Kamov ส่งผลให้โครงการพัฒนา Mi-28 ถูกลดความสำคัญลง แต่ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างช้าๆ เทคโนโลยีบางส่วนของ Mi-28 ถูกนำไปใช้อัพเกรด Mi-24 รุ่นหลังๆแทน
ต่อมาในปี ค.ศ.1988 ต้นแบบเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-28A ซึ่งมีเครื่องยนต์กำลังสูงขึ้นทำการบินเที่ยวแรก และในปี ค.ศ.1989 ก็ไปเปิดตัวในงาน Paris Air Show ด้วย แม้จะมีขีดความสามารถสูงขึ้นแต่ Mi-28A ก็ยังเอาชนะ Ka-50 ไม่ได้อยู่ดี ส่งผลให้โครงการถูกยกเลิกไปในปี ค.ศ.1993 (ตอนนี้สหภาพโซเวียตได้ล่มสลายไปแล้ว)
Mi-28N เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ.1995 มีขีดความสามารถสูงขึ้นมาก รวมถึงแก้ไขจุดอ่อนของ Mi-28A เดิมด้วย สามารถปฏิบัติการได้ในทุกสภาพอากาศทั้งกลางวันและกลางคืน จึงได้รับฉายาว่านักล่าราตรี (Night Hunter) ในที่สุดกองทัพรัสเซียก็ตัดสินใจจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีรุ่นนี้เข้าประจำการคู่กับ Ka-50 แต่ทว่าในช่วงยุค 90 รัสเซียประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณ ส่งผลให้กว่า Mi-28N จะได้เข้าประจำการก็ต้องรอถึงปี ค.ศ.2006
จุดเด่นของ Mi-28N อยู่ที่เกราะป้องกันตัว เนื่องจากภารกิจหลักคือการสนับสนุนกำลังภาคพื้นดินในแนวหน้า ห้องนักบินของ Mi-28N จึงถูกหุ้มเกราะ ขณะที่ใบพัดก็ผลิตจากวัสดุคอมโพสิตชนิดพิเศษ สามารถป้องกันกระสุนขนาด 30 มิลลิเมตรได้ Mi-28N ติดอาวุธปืนใหญ่อัตโนมัติ Shipunov 2A42 ขนาด 30 มิลลิเมตร บรรทุกกระสุน 300 นัด และมีตำบลติดอาวุธ 4 จุด สำหรับติดตั้งฝักจรวดไม่นำวิถี S-8 ขนาด 80 มิลลิเมตร, จรวดต่อสู้รถถัง Ataka, Shturm-V และ Vikhr นอกจากนี้ยังสามารถติดจรวดอากาศสู่อากาศ Igla-V สำหรับต่อต้านอากาศยานได้ด้วย ระบบขับเคลื่อนเดิมใช้เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ Klimov TV3-117VMA-SB3 ผลิตโดยบริษัท Motor-Sich ของยูเครน แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาฟท์ Klimov VK-2500 ซึ่งรัสเซียผลิตเองแล้ว Mi-28N มีความเร็วสูงสุด 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-28N ถูกใช้งานในสมรภูมิจริงครั้งแรกเมื่อกองทัพรัสเซียเข้าแทรกแซงสงครามซีเรีย โดยในปี ค.ศ.2016 รัสเซียใช้ Mi-28N หลายลำสนับสนุนกองทัพซีเรียบุกยึดเมืองพัลไมรา (Palmyra) คืนจากกลุ่ม IS และในปีเดียวกันนี้ก็มีการเปิดตัวต้นแบบ Mi-28NM รุ่นอัพเกรด ก่อนที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียจะสั่งซื้อชุดแรกในปีต่อมา Mi-28NM ลำต้นแบบถูกส่งไปทดสอบจริงในซีเรียในปี ค.ศ.2009 ปฏิบัติการร่วมกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-24 และ Mi-35 ในจังหวัดฮามา (Hama) รัสเซียประทับใจขีดความสามารถของ Mi-28NM มากและได้เซ็นสัญญาจัดหาจำนวน 98 ลำในงานแสดงอาวุธ Army-2019 มีกำหนดส่งมอบครบในปี ค.ศ.2027
Mi-28NE เป็นรุ่นส่งออกของ Mi-28N ปัจจุบันมีใช้งานในประเทศอิรักและแอลจีเรีย
Mi-28UB เป็นรุ่นสำหรับใช้ในการฝึก แต่สามารถใช้ในภารกิจโจมตีได้เช่นกัน
สวัสดี
21.02.2022

(Nickel nitride/ Wikimedia Commons/ Public Domain)