แม้เรือลาดตระเวน Moskva เรือธงกองเรือทะเลดำของรัสเซียจะเก่าและมีอายุมากแล้วตอนที่จมลงนอกชายฝั่งยูเครน แต่การที่รัสเซียสูญเสียเรือใหญ่ขนาดนี้ไปกะทันหันก็ส่งผลต่อกำลังรบของกองเรือทะเลดำ (Black Sea Fleet) พอสมควร โดยเฉพาะหลังจากที่กองเรือทะเลดำพึ่งปลดประจำการเรือรบขนาดใหญ่อีก 2 ลำคือเรือลาดตระเวน Kerch และเรือพิฆาต Smetlivy ไปได้ไม่นาน
เรือลาดตระเวน Kerch ชั้น Kara Project 1134B
Kerch เป็นเรือลาดตระเวนในชั้น Kara Project 1134B เข้าประจำการในกองทัพเรือโซเวียตเมื่อปี ค.ศ.1974 ออกแบบมาใช้ในภารกิจต่อต้านเรือดำน้ำเป็นหลัก มีระวางขับน้ำ 8,900 ตัน ติดอาวุธปืนเรือ AK-726 ขนาด 76 มิลลิเมตร, จรวดต่อต้านเรือดำน้ำ/เรือรบ Metel หรือ SS-N-14 Silex จำนวน 8 ท่อยิง, ระบบป้องกันภัยทางอากาศ M-11 Shtorm (SA-N-3 Goblet) และ 9K33 Osa (SA-N-4 Gecko), ระบบป้องกันระยะประชิด (CIWS) AK-630 จำนวน 4 แท่น, แท่นยิงจรวดต่อต้านเรือดำน้ำ RBU-6000 จำนวน 2 แท่น, แท่นยิงจรวดต่อต้านเรือดำน้ำ RBU-1000 จำนวน 2 แท่น และท่อปล่อยตอร์ปิโดขนาด 533 มิลลิเมตร 10 ท่อ มีลูกเรือ 425 นาย
ในปี ค.ศ.2014 หลังรับใช้ชาติมา 40 ปี รัสเซียได้นำเรือลาดตระเวน Kerch เข้าอู่เพื่อรับการอัพเกรด โดยรัสเซียวางแผนจะใช้เรือลำนี้เป็นเรือธงของกองเรือทะเลดำชั่วคราวขณะที่เรือลาดตระเวน Moskva เข้ารับการอัพเกรดในอนาคต แต่ทว่าขณะที่ Kerch อยู่ในอู่ได้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ลามไปหลายส่วนของเรือได้รับความเสียหายรุนแรง ส่งผลให้รัสเซียตัดสินใจปลด Kerch ออกจากทำเนียบกำลังรบของกองเรือทะเลดำ เกิดการถกเถียงเป็นเวลาหลายปีว่าจะทำอะไรกับเรือลำนี้ดี บ้างก็เสนอว่าให้ใช้เป็นเรือฝึก บ้างก็เสนอว่าให้อนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ แต่สุดท้ายรัสเซียก็ตัดสินใจยุบเรือลำนี้และส่งไปแยกชิ้นส่วนในปี ค.ศ.2020 ซึ่งถือว่าน่าเสียดายมากเพราะ Kerch เป็นเรือชั้น Kara ลำสุดท้ายจากทั้งหมด 7 ลำ และก่อนหน้านี้เรือลำอื่นๆก็ถูกยุบเป็นเศษเหล็กไปหมดแล้ว ไม่มีการอนุรักษ์ไว้

(George Chernilevsky/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
เรือพิฆาต Smetlivy ชั้น Kashin Project 61M
Smetlivy เป็นเรือพิฆาตชั้น Kashin Project 61M เข้าประจำการในกองทัพเรือโซเวียตตั้งแต่ปี ค.ศ.1969 และถูกปลดประจำการไปเมื่อปี ค.ศ.1991 ตอนที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย แต่ในปี ค.ศ.1995 รัสเซียได้ฟื้นสภาพเรือลำนี้กลับเข้าประจำการอีกครั้ง มีระวางขับน้ำ 4,750 ตัน ติดอาวุธปืนเรือ AK-726 ขนาด 76 มิลลิเมตร, จรวดต่อต้านเรือรบ SS-N-25 Switchblade (Kh-35) จำนวน 8 ท่อยิง, ระบบป้องกันภัยทางอากาศ SA-N-1 Goa (S-125 Neva), แท่นยิงจรวดต่อต้านเรือดำน้ำ RBU-6000 จำนวน 2 แท่น และท่อปล่อยตอร์ปิโดขนาด 533 มิลลิเมตร 5 ท่อ มีลูกเรือ 274 นาย
เรือพิฆาต Smetlivy มีส่วนร่วมในการปิดชายฝั่งจอร์เจียระหว่างสงครามรัสเซีย-จอร์เจีย เดือนสิงหาคม ค.ศ.2008 ต่อมาก็ได้ออกปฏิบัติการในทะเลเมดิเตอเรเนียน นอกชายฝั่งซีเรียหลายครั้งระหว่างปี ค.ศ.2013 – 2019 รัสเซียปลดประจำการเรือลำนี้ในปี ค.ศ.2020 แล้วนำไปทำเป็นพิพิธภัณฑ์

(George Chernilevsky/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
การที่รัสเซียสูญเสียเรือลาดตระเวน Moskva ชั้น Slava ระหว่างปฏิบัติการในยูเครน หลังจากพึ่งปลดประจำการเรือลาดตระเวน Kerch และเรือพิฆาต Smetlivy ไปไม่นาน ส่งผลให้เรือรบผิวน้ำขนาดใหญ่ของกองเรือทะเลดำขณะนี้เหลือเพียงเรือฟริเกตเท่านั้นประกอบด้วยเรือชั้น Admiral Grigorovich จำนวน 3 ลำ (Admiral Grigorovich, Admiral Essen และ Admiral Makarov) และเรือชั้น Krivak จำนวน 2 ลำ (Ladny และ Pytlivyy) ส่วนเรือรบผิวน้ำที่เหลือจะเป็นเรือยกพลขึ้นบก และเรือขนาดเล็กอย่างเรือคอร์เวต เรือตรวจการณ์ เรือกวาดทุ่นระเบิด ฯลฯ (กองเรือทะเลดำยังมีเรือดำน้ำชั้น Kilo Project 636.3 ใช้งานอยู่ 6 ลำด้วย) แม้เรือฟริเกตชั้น Admiral Grigorovich จะเป็นหนึ่งในเรือรบใหม่ที่สุดของรัสเซีย มีความทันสมัยกว่าเรือลาดตระเวน Moskva มาก แต่ก็มีขนาดเล็กกว่ามากเช่นกันคือมีระวางขับน้ำเพียง 4,000 ตันเท่านั้น ขณะที่ Moskva มีระวางขับน้ำ 12,490 ตัน ขนาดและรูปร่างภายนอกของเรือชั้น Admiral Grigorovich อาจดูไม่น่าเกรงขามเท่า ตัวเลือกเรือธงลำใหม่ของกองเรือทะเลดำจึงอาจจะเป็นเรือลาดตระเวน Marshal Ustinov จากกองเรือภาคเหนือ (Northern Fleet) ซึ่งเป็นเรือชั้น Slava เช่นเดียวกับ Moskva หรือไม่ก็รอเรือฟริเกตชั้น Admiral Gorshkov ลำที่สี่ชื่อ Admiral Isakov ซึ่งมีกำหนดเข้าประจำการกับกองเรือทะเลดำในปี ค.ศ.2023 เรือชั้นนี้เป็นเรือรบผิวน้ำที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซียในปัจจุบัน มีระวางขับน้ำ 5,400 ตัน จึงมีความเหมาะสมที่สุดในขณะที่อุตสาหกรรมต่อเรือของรัสเซียยังไม่พร้อมต่อเรือพิฆาต เรือลาดตระเวน หรือเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ครับ
สวัสดี
17.04.2022