ปืนใหญ่อัตตาจรรุ่นเก่าช่วยแก้ปัญหาเรื่องระยะยิงของปืนใหญ่รัสเซีย

ภาพปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 203 มิลลิเมตร 2S7M Malka ของรัสเซียระหว่างการฝึก วันที่ 11 มีนาคม ค.ศ.2020
(Ministry of Defence of the Russian Federation – Mil.ru)

หลักนิยมของรัสเซียให้ความสำคัญกับปืนใหญ่ซึ่งนายอิโอซิฟ สตาลิน (Iosif Stalin) อดีตผู้นำสหภาพโซเวียตขนานนามว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม (God of War) มาก กองทัพรัสเซียมียุทโธปกรณ์ประเภทปืนใหญ่ ปืนใหญ่อัตตาจร และจรวดหลายลำกล้องใช้งานอยู่มหาศาล โดยปัจจุบันปืนใหญ่อัตตาจรที่กองทัพรัสเซียมีใช้งานจำนวนมากที่สุด 2 รุ่นได้แก่ปืนใหญ่อัตตาจร 2S19 Msta-S มีประจำการประมาณ 850 – 935 ระบบ และปืนใหญ่อัตตาจร 2S3 Akatsiya มีประจำการประมาณ 800 ระบบ

ปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 152 มิลลิเมตร 2S19 Msta-S (ตั้งชื่อตามแม่น้ำ Msta) เข้าประจำการในกองทัพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ.1989 และมีการอัพเกรดเพิ่มเติมมาจนถึงปัจจุบัน ใช้ป้อมปืนใหญ่ขนาด 152 มิลลิเมตรแบบเดียวกับปืนใหญ่ลากจูง Msta-B ติดตั้งบนแคร่รถถัง T-80 แต่ระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 840 แรงม้าเหมือนรถถัง T-72 กระสุนปกติมีระยะยิง 25 กิโลเมตร แต่ถ้าใช้กระสุนต่อระยะจะมีระยะยิงเพิ่มขึ้นเป็น 29 กิโลเมตร ปืนใหญ่อัตตาจร Msta-S สามารถใช้ยิงกระสุนนำวิถีด้วยเลเซอร์ Krasnopol ได้ด้วย

ภาพปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 152 มิลลิเมตร 2S19 Msta-S ของรัสเซียระหว่างการฝึกวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ.2020
(Ministry of Defence of the Russian Federation – Mil.ru)

ปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 152 มิลลิเมตร 2S3 Akatsiya (ชื่อแปลว่าดอกอาเคเชีย) เข้าประจำการในกองทัพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ.1971 ใช้ปืนใหญ่ขนาด 152 มิลลิเมตรรุ่น D-22 (ดัดแปลงจากปืนใหญ่ลากจูง D-20) มาติดตั้งบนแคร่รถสายพานแบบเดียวกับของระบบป้องกันภัยทางอากาศ Krug (SA-4 Ganef) มีระยะยิง 17.4 กิโลเมตรด้วยกระสุนปกติ แต่ถ้าใช้กระสุนต่อระยะจะมีระยะยิงเพิ่มขึ้นเป็น 24 กิโลเมตร ปัจจุบันปืนใหญ่อัตตาจร Akatsiya ได้รับการอัพเกรดให้สามารถใช้กระสุนนำวิถีด้วยเลเซอร์ Krasnopol ได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่าแม้ปืนใหญ่อัตตาจร Msta-S จะมีระยะยิงใกล้เคียงกับปืนใหญ่ลากจูงขนาด 155 มิลลิเมตร M777 และปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 155 มิลลิเมตร M109A6 Paladin ของสหรัฐฯ ซึ่งมีความยาวลำกล้อง 39 คาลิเบอร์ ระยะยิงประมาณ 24 – 30 กิโลเมตร แต่ถ้าเปรียบเทียบกับปืนใหญ่อัตตาจรรุ่นใหม่ๆของยุโรปเช่น CAESAR ของฝรั่งเศส, PzH 2000 ของเยอรมนี ฯลฯ ซึ่งใช้ปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร ความยาวลำกล้อง 52 คาลิเบอร์ ระยะยิง 40 กิโลเมตรด้วยกระสุนต่อระยะ ก็ถือว่าปืนใหญ่ของรัสเซียเสียเปรียบพอสมควร

รัสเซียได้พัฒนาปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 152 มิลลิเมตรรุ่นล่าสุดคือ 2S35 Koalitsiya-SV เปิดตัวพร้อมกับรถถัง T-14 Armata ระหว่างงานสวนสนามวันแห่งชัยชนะ (Victory Day) ค.ศ.2015 ใช้ปืนใหญ่ขนาด 152 มิลลิเมตร ความยาวลำกล้อง 52 คาลิเบอร์ 2A88 รุ่นใหม่ ซึ่งมีระยะยิง 40 กิโลเมตรด้วยกระสุนต่อระยะใกล้เคียงกับปืนใหญ่รุ่นใหม่ๆของฝั่ง NATO นอกจากนี้รัสเซียก็กำลังพัฒนากระสุนปืนใหญ่รุ่นใหม่ซึ่งมีระยะยิงถึง 70 กิโลเมตรด้วย อย่างไรก็ตามเนื่องจากรัสเซียมีงบประมาณจำกัด ประกอบกับรัสเซียต้องการให้ปืนใหญ่อัตตาจร Koalitsiya-SV ใช้แคร่รถแบบเดียวกับยานเกราะตระกูล Armata ส่งผลให้โครงการเกิดความล่าช้า ปัจจุบันปืนใหญ่อัตตาจร Koalitsiya-SV พึ่งจะถูกผลิตออกมาเพียง 12 ระบบเท่านั้น โดยยังคงใช้แคร่รถที่ดัดแปลงมาจากแคร่รถถัง T-90 อยู่

เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเกี่ยวกับระยะยิงของปืนใหญ่ กองทัพรัสเซียจึงหันไปหาปืนใหญ่อัตตาจรจากยุคโซเวียตอีก 2 รุ่นคือปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 152 มิลลิเมตร 2S5 Giatsint-S และปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 203 มิลลิเมตร 2S7M Malka

ภาพปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 152 มิลลิเมตร 2S5 Giatsint-S ของรัสเซียระหว่างการฝึก วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ.2020
(Ministry of Defence of the Russian Federation – Mil.ru)

ปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 152 มิลลิเมตร 2S5 Giatsint-S (ชื่อแปลว่าดอกไฮยาซินธ์) เข้าประจำการในกองทัพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ.1976 ใช้ปืนใหญ่ขนาด 152 มิลลิเมตรแบบเดียวกับปืนใหญ่ลากจูง 2A36 Giatsint-B ความยาวลำกล้อง 54 คาลิเบอร์ ติดตั้งบนแคร่รถสายพานที่ดัดแปลงมาจากรถฐานยิงของระบบป้องกันภัยทางอากาศ Krug มีระยะยิงไกลสุด 40 กิโลเมตรด้วยกระสุนต่อระยะ ปัจจุบันกองทัพรัสเซียมีใช้งานอยู่ประมาณ 100 ระบบ

ปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 203 มิลลิเมตร 2S7M Malka เป็นรุ่นอัพเกรดของปืนใหญ่อัตตาจรขนาด 203 มิลลิเมตร 2S7 Pion (ชื่อแปลว่าดอกโบตั๋น) เข้าประจำการในกองทัพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ.1976 ใช้ปืนใหญ่ขนาด 203 มิลลิเมตร ติดตั้งบนแคร่รถสายพานที่ดัดแปลงมาจากแคร่รถถัง T-80 แต่ระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ดีเซล V-84 ขนาด 840 แรงม้าแบบเดียวกับรถถัง T-72 มีระยะยิงด้วยกระสุนปกติ 37.5 กิโลเมตร แต่ถ้าใช้กระสุนต่อระยะจะมีระยะยิงเพิ่มขึ้นเป็น 47.5 กิโลเมตร ปัจจุบันกองทัพรัสเซียมีประจำการประมาณ 60 – 100 ระบบ

จะเห็นได้ว่าการใช้ปืนใหญ่อัตตาจรรุ่นเก่า Giatsint-S และ Malka ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องระยะยิงของปืนใหญ่รัสเซียระหว่างรอปืนใหญ่อัตตาจร Koalitsiya-SV เข้าประจำการได้ แต่เนื่องจากปืนใหญ่อัตตาจรทั้งสองรุ่นมีอายุมากแล้ว และมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับจำนวนปืนใหญ่อัตตาจรทั้งหมดของรัสเซีย ก็น่าติดตามต่อไปว่ารัสเซียจะยังใช้ปืนใหญ่อัตตาจรทั้งสองรุ่นขัดตาทัพไปได้อีกนานแค่ไหน

สวัสดี

05.05.2022

แสดงความคิดเห็น