
(los688/ Wikimedia Commons/ Public Domain)
FH 70 (ชื่อย่อมาจาก field howitzer for the 1970s หรือปืนใหญ่สนามสำหรับทศวรรษ 1970) เป็นปืนใหญ่ลากจูงขนาด 155 มิลลิเมตร ที่ประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) หลายประเทศร่วมกันพัฒนาขึ้น โครงการพัฒนาปืนใหญ่รุ่นนี้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ.1962 โดยความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และเยอรมนีตะวันตก เพื่อทดแทนทั้งปืนใหญ่ลากจูงขนาด 155 มิลลิเมตร M114 ที่สหรัฐฯและเยอรมนีตะวันตกใช้งานอยู่ กับปืนใหญ่วิถีโค้งขนาด 5.5 นิ้ว (140 มิลลิเมตร) BL 5.5-inch ของอังกฤษภายในช่วงทศวรรษ 1970 (เป็นที่มาของชื่อ FH 70) แต่ทว่าต่อมาได้เกิดความขัดแย้งในหมู่ประเทศที่ร่วมโครงการเกี่ยวกับคุณลักษณะของปืนใหญ่ที่จะพัฒนาขึ้น เนื่องจากประเทศในยุโรปต้องการให้ปืนใหญ่ FH 70 มีหน่วยช่วยขับเคลื่อน (Auxiliary Propulsion Unit หรือ APU) เพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ด้วยตัวเองได้เป็นระยะสั้นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกเวลาเข้าออกที่ตั้งยิงและปรับมุมยิง แต่ก็ส่งผลให้มีน้ำหนักมากขึ้น ในขณะที่สหรัฐฯต้องการปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตรที่มีน้ำหนักเบาเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายด้วยเฮลิคอปเตอร์ได้ สุดท้ายสหรัฐฯจึงถอนตัวจากโครงการในปี ค.ศ.1965 อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ.1970 อิตาลีได้มาเข้าร่วมโครงการพัฒนาปืนใหญ่ FH 70 อีกประเทศหนึ่ง
ปืนใหญ่ FH 70 ผลิตโดยบริษัท Vickers Ltd ของอังกฤษ, Rheinmetall GmbH ของเยอรมนีตะวันตกและ OTO Melara ของอิตาลี เข้าสู่สายการผลิตในปี ค.ศ.1978 มีน้ำหนัก 9.6 ตัน ขนาดความกว้างปากลำกล้อง 155 มิลลิเมตร ความยาวลำกล้อง 39 คาลิเบอร์ กระสุนปกติมีระยะยิง 24 กิโลเมตร แต่ถ้าใช้กระสุนต่อระยะจะมีระยะยิง 30 กิโลเมตร อัตราการยิงสูงสุด 6 นัดต่อนาที อัตราการยิงต่อเนื่อง 2 นัดต่อนาที กระสุนลูกหนึ่งมีน้ำหนักประมาณ 43.5 กิโลกรัม ใช้พลประจำปืน 8 นาย ปืนใหญ่ FH 70 สามารถเคลื่อนที่ด้วยตัวเองเป็นระยะทางสั้นๆด้วยระบบ APU ใช้เครื่องยนต์ดีเซล Volkswagen 1.8-liter diesel ขนาด 71 แรงม้า ด้วยความเร็ว 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการบนถนน 20 กิโลเมตร การลากจูงปกติจะใช้รถบรรทุก 6×6 สามารเคลื่อนที่บนถนนด้วยความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเตรียมการยิงและย้ายที่ตั้งใช้เวลาประมาณ 2 นาที
ปืนใหญ่ FH 70 ถูกผลิตออกมามากกว่า 1,007 กระบอกจนถึงปี ค.ศ.1989 โดยอังกฤษจัดหาไปใช้งานจำนวน 67 กระบอก, เยอรมนีตะวันตกจัดหาจำนวน 150 กระบอก ส่วนอิตาลีจัดหาจำนวน 162 กระบอก ที่เหลือเป็นของลูกค้าต่างประเทศ โดยญี่ปุ่นเป็นผู้ใช้งานรายใหญ่ที่สุด บริษัท Japan Steel Works ได้ทำการผลิตปืนใหญ่รุ่นนี้ภายใต้สิทธิบัตรออกมาถึง 480 กระบอก
ปัจจุบันอังกฤษและเยอรมนีได้ปลดประจำการปืนใหญ่รุ่นนี้แล้ว ขณะที่อิตาลียังมีใช้งานอยู่ประมาณ 90 กระบอก อิตาลีได้ส่งปืนใหญ่ FH 70 ที่ปลดประจำการแล้วจำนวนหนึ่งให้ยูเครนใช้สู้รบกับรัสเซียระหว่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน ค.ศ.2022
สวัสดี
31.05.2022