(Bundesarchiv, Bild 101I-721-0386-15 / Jesse / CC-BY-SA 3.0)
ปืนกล Maschinengewehr 34 หรือ MG 34 เป็นปืนกลอเนกประสงค์ (Einheitsmaschinengewehr) ของกองทัพเยอรมันสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง มีอัตราการยิงและความคล่องตัวสูง อาจจัดเป็นปืนกลเบา (Light machine gun) หรือปืนกลหนัก (Heavy machine gun) ขึ้นกับว่าติดตั้งบนขาทรายหรือขาหยั่ง (กองทัพเยอรมันจัดประเภทยุทโธปกรณ์ตามลักษณะการใช้งาน) เข้าประจำการในปี ค.ศ.1934 และเริ่มส่งมอบให้หน่วยทหารเยอรมันใช้งานอย่างแพร่หลายในปี ค.ศ.1936
ปืนกล MG 34 มีขนาดยาว 1,220 มิลลิเมตร ความยาวลำกล้อง 628 มิลลิเมตร น้ำหนักปืนเปล่า 12.1 กิโลกรัม ใช้กระสุนขนาด 7.92 x 57 มิลลิเมตร Mauser บรรจุกระสุนด้วยสายกระสุน สายละ 50 นัด อัตราการยิง 800 – 900 นัดต่อนาที สูงกว่าทั้งปืนกล Bren ของอังกฤษและ Browning ของสหรัฐฯที่มีอัตราการยิงประมาณ 500 – 600 นัดต่อนาที อย่างไรก็ตามการที่ปืนกล MG 34 มีอัตราการยิงสูงก็ส่งผลให้ลำกล้องเกิดความร้อนเร็วมาก เมื่อทำการยิงต่อเนื่อง จึงต้องมีการหยุดยิงเพื่อทำการเปลี่ยนลำกล้องเป็นระยะๆ ปืนกล MG 34 มีระยะยิงหวังผล 1,200 เมตรเมื่อติดตั้งบนขาทรายและ 3,500 เมตรเมื่อติดตั้งบนขาหยั่ง
(Bundesarchiv, Bild 101I-291-1213-34 / Müller, Karl / CC-BY-SA 3.0)
ปืนกล MG 34 ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายโดยทหารเยอรมันในทุกสมรภูมิตั้งแต่สมรภูมิทะเลทรายแอฟริกาเหนือไปจนถึงทุ่งหิมะหนาวเหน็บในรัสเซีย นอกจากการใช้งานในหน่วยทหารราบแล้ว ยังมีการติดตั้งปืนกล MG 34 ในยานพาหนะต่างๆทั้งรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง รถกึ่งสายพาน รถถัง ไปจนถึงเครื่องบินรบ ข้อด้อยของปืนกล MG 34 คือกระบวนการผลิตมีความซับซ้อน ส่งผลให้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองมีปืนกลรุ่นนี้ถูกผลิตออกมาประมาณ 350,000 กระบอกเท่านั้น เยอรมนีจึงพัฒนาปืนกล MG 42 ที่มีความเรียบง่ายและอัตราการยิงสูงกว่าขึ้นมาแทนที่ในปี ค.ศ.1942 อย่างไรก็ตามแม้จะมีการพัฒนาปืนกลรุ่นใหม่มาใช้งานแต่ปืนกล MG 34 ก็ยังถูกใช้งานต่อไปจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเฉพาะการติดตั้งในยานเกราะและอากาศยาน เนื่องจากปืนกล MG 34 ถอดเปลี่ยนลำกล้องทางด้านหลัง สะดวกและใช้พื้นที่น้อยกว่าปืนกล MG 42 ที่ถอดเปลี่ยนลำกล้องทางด้านข้าง
สวัสดี
08.06.2022
